ฝ่ายค้านยกระดับชำแหละงบ65เข้มข้น

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ว่า จะเปิดอภิปรายคนแรก โดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ และ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านฯ และขยายความโดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย จากนั้นจะเป็นหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านสลับกัน พร้อมสรุปปิดอภิปรายในวันสุดท้ายโดยตน

นายสุทิน กล่าวว่า ซึ่งในการบริหารเวลาวันนี้ โดยพื้นฐานจะได้คนละ 10 นาทีและอาจจะมีเพิ่มเวลาให้กับประเด็นที่ต้องเน้น 15-30 นาที เชื่อว่าก็จะจบได้ตามเวลาที่กำหนด ซึ่งการแบ่งเวลาก็ใช้ฐานเดิมคือ ส.ส.ของพรรค เช่นพรรคเพื่อไทยได้ 760 นาที พรรคก้าวไกล 310 นาที และพรรคเล็กพรรคน้อยก็ลดหลั่นตามกันไป แต่จะมีพรรคเดียวเลยคือพรรคพลังปวงชนไทย พรรคเดียวคนเดียวเลย ได้เวลา 15 นาที และจะมีนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่และนายมงคลกิตต์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศิวิไลซ์ ทั้งสองคนนี้มาเพิ่มเติม

นายสุทิน กล่าวด้วยว่า สาระของวันนี้จะเริ่มต้นด้วยภาพรวมของงบประมาณ โดยหลักแล้วจะชี้ให้เห็นถูกผิดเกี่ยวกับการบำรุงสถานการณ์เศรษฐกิจในปีนี้และปีหน้าและชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลว ความสำเร็จที่พอจะมีต่อการใช้งบประมาณ ส่วนวันที่ 1-2 มิถุนายนจะเป็นการลงรายละเอียดของแต่ละกระทรวง อย่างไรก็ตามกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นไฮไลท์ต่อด้วยกระทรวงกลาโหมที่เป็นคู่เปรียบเทียบ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม และกระทรวงพลังงานที่มีงบประมาณจำนวนมาก ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขต้องมาเจาะลึกกันว่าเหมาะหรือไม่เหมาะและจะเป็นการเพิ่มความเข้มแข็งในการรับมือโควิดได้จริงหรือไม่ กับงบที่นำไปเติมให้ และคงหนีไม่พ้นที่จะถูกพาดพิงไปถึงพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงิน 5 แสนล้านบาทที่จะเข้าหลังจากนี้ 

เมื่อถามว่า มติจะเป็นรูปแบบใดจะคล้ายกับงบประมาณที่ผ่านมาหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า แตกต่างจากทุกปี เพราะทุกปีมีการอะลุ่มอล่วย แม้รู้ว่าผิดแต่เราก็ให้โอกาส แต่เมื่อให้โอกาสมาแล้ว 2 ปีเราพบว่าไม่เคยจะแก้ไข ปีนี้เราจึงคิดว่าจะต้องยกระดับให้สัมพันธ์กับความรู้สึกของประชาชนและปัญหาที่เขาสร้างขึ้น ซึ่งเราจะไม่รับ แต่เราก็เชื่อว่าถึงแม้เราจะไม่รับ รัฐบาลก็คงผ่านไปจนได้ ดังนั้นมติของเราจะเป็นการชี้ถูกชี้ผิด ซึ่งจะเป็นระดับที่เข้มข้นขึ้น จะทำให้เขาสร้างความตระหนักและเราหวังผลว่าจะได้รับการแก้ไขในชั้นคณะกรรมาธิการและในวาระ 2-3 ซึ่งมติที่ไม่รับนั้นเป็นการสอดคล้องกันของทุกพรรคฝ่ายค้าน อย่างไรก็ตามการที่เราจะคว่ำเราก็ต้องดูและฟังคำชี้แจง แต่ก็ไม่แน่ตนได้ฟังจากส.ส.ของรัฐบาลหลายพรรคก็ไม่เห็นด้วย อึดอัดกับการแจกงบประมาณ ฉะนั้นจะถึงขั้นที่เขาจะคว่ำงบด้วยหรือเปล่า เท่านั้นเอง ว่าเขาจะเลือกเอามารยาทหรือเลือกเอาประชาชน