ฝ่ายค้านขู่คว่ำพ.ร.ก.กู้เงิน 1.9ล้านล้านบาท หากรัฐไม่ตอบรายละเอียดใช้เงินกู้ให้ชัดเจน


นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือ วิปฝ่ายค้าน พร้อมด้วย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รองประธานวิปฝ่ายค้าน และนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมแถลงผลการประชุมวิปฝ่ายค้าน

โดยนายสุทิน กล่าวว่า รูปแบบการประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ และ พ.ร.ก.การประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ จะเป็นการอภิปรายทีละฉบับ และหากมีความจำเป็นต้องเชื่อมโยงถึงฉบับอื่นก็สามารถทำได้ โดยจะไม่มีการประท้วง ฝ่ายค้านจะแบ่งสัดส่วนเวลาตามจำนวน ส.ส. ของพรรค และให้ทุกพรรคได้อภิปราย ตั้งแต่วันที่ 27-31 พฤษภาคม เริ่มจากพรรคเพื่อไทย 35 คน พรรคก้าวไกล 15 คน และพรรคร่วมฝ่ายค้าน รวมแล้ว 65 คน

ด้านนายพิจารณ์ ยังได้กล่าวถึงสัดส่วนของการอภิปรายว่า 3 วันแรกจะเป็นการอภิปราย พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท และวันที่ 4 จะเป็นการพิจารณา พ.ร.ก. ให้ ธปท. ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Softloan) 5 แสนล้านบาท และวันที่ 5 จะพิจารณา พ.ร.ก.อุ้มตราสารหนี้ 4 แสนล้านบาท และพิจารณา พ.ร.ก. การประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่อโดยจะแยกลงมติทีละฉบับ

ส่วนนายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้มีข้อจำกัดเรื่องเคอร์ฟิวจึงจะปิดการประชุม 20.00 น. ของทุกวัน และเปิดประชุม 9.30 น. โดยมีฝ่ายค้านและรัฐบาลเข้าร่วมองค์ประชุมด้วยกัน แม้ว่าจะมีการพิจารณาและอภิปราย พ.ร.ก. ทีละฉบับ แต่คณะรัฐมนตรีสามารถชี้แจงเหตุผลของ พ.ร.ก.พร้อมกันได้

นายสุทิน กล่าวอีกว่า จากการพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงินทั้ง 3 ฉบับไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนทั้งหมด เพราะฉะนั้น หากจะให้ผ่านไปเลยคงไม่เป็นประโยชน์ต่อสังคม โดยฝ่ายค้านจะเสนอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อตรวจสอบการใช้เงินกู้จำนวนนี้ และหากรัฐบาลรับปากว่าจะรายงานการใช้เงินกู้จำนวนนี้ต่อสภาฯ เดือนละครั้ง ฝ่ายค้านอาจจะให้ผ่าน แต่จะไม่ให้ผ่านแบบไม่มีเงื่อนไข

นายสุทิน กล่าวว่า มีข้อกังวลคือ ยังไม่มีรายละเอียดการใช้เงินที่ชัดเจน รัฐบาลต้องตอบคำถามและให้สัญญาต่อสภาฯ ให้ได้ แม้จะยังไม่จบในรูปเล่มของ พ.ร.ก. ดังนั้น หากรัฐบาลยังไม่ให้รายละเอียด ฝ่ายค้านก็จนใจที่จะให้ผ่าน และหากในที่ประชุมรัฐบาลยังตอบรายละเอียดการใช้งบประมาณนี้ไม่ชัด หรือไม่ยอมตอบ ฝ่ายค้านก็อาจต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ 

ส่วนปัญหาที่มี ส.ส. บางคนไม่ได้อภิปรายทั้งที่เตรียมตัวมาแล้วนั้น นายสุทิน กล่าวว่า ครั้งนี้ก็จะไม่มีปัญหาเหมือนอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยจะนำบทเรียนจากครั้งก่อนมาใช้ และปัญหาเดิมก็จะไม่เกิดขึ้นอีก

ขณะที่ นายพิจารณ์ เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาดังกล่าว แต่เกรงว่าปัญหาจะอยู่ที่เปิดประชุมไม่ได้ตามเวลาที่กำหนดคือ 9.30 น. และทำให้ปัญหาของการจัดการเวลาผิดพลาด ฝ่ายค้านจะมาให้ครบทุกคน แต่ต้องจับตาดูฝ่ายรัฐบาลด้วย และถ้าเริ่มประชุมช้าก็ต้องเลิกประชุมช้าไปด้วยเพื่อให้มีเวลาอภิปราย 10 ชั่วโมงครึ่งต่อวัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมวิปฝ่ายค้าน นายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ หัวหน้าพรรคพรรคสามัญชน ได้ยื่นหนังสื่อต่อที่ประชุมวิปฝ่ายค้าน เพื่อคัดค้านการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ต่อเนื่องเป็นเดือนที่สาม ถือเป็นการใช้ประกาศที่เกินความจำเป็น ทั้งระบบกฎหมาย กลไกการเมืองและราชการปกติที่มีอยู่ก็สามารถควบคุมโรคโควิด-19 ได้ดีกว่าการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และยังทำให้เกิดการใช้อำนาจที่เกินไปกว่าการควบคุมโรค การละเมิดและลิดรอนสิทธิและเสรีภาพของประชาชนมากเกินควร

โดยเฉพาะสิทธิและเสรีภาพในการเคลื่อนไหวเพื่อแสดงความคิดเห็นและชุมนุมเรียกร้อง ประท้วงหรือการแสดงออกอื่นใดก็ตามที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบาย กฎหมายหรือกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา เจ้าหน้าที่มักจะใช้เหตุผลนี้ในการข่มขู่และคุมขังประชาชนไม่ให้ทำการชุมนุมสาธารณะ ทั้งที่ประชาชนไม่ได้ละเลยมาตรการความปบอดภัยทางสาธารณสุข เช่น การเว้นระยะห่างทางสังคม หรือการใช้หน้ากากอนามัย ทางพรรคจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ภายในเดือนมิถุนายน

นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวหลังรับหนังสือว่า ฝ่ายรัฐบาลน่าจะรับฟังและเอาเสียงของประชาชนไปพิจารณา แต่ก็ต้องผิดหวัง และเห็นว่ารัฐบาลเพิกเฉยต่อการท้วงติง และไม่สนใจเศรษฐกิจที่ย่ำแย่