- ฝรั่งเศสประกาศล็อกดาวน์ตั้งแต่ 30 ต.ค. ชะลอผู้ป่วยหลังเพิ่มขึ้น เตรียมมาตรการช่วยธุรกิจเอกชน
- เยอรมันสั่งปิดเมืองตั้งแต่ 2 พ.ย. เตรียมชดเชยภาคธุรกิจให้ 75% ของยอดขายเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า “เอ็มมานูเอล มาครง” ประธานาธิบดีแห่งประเทศฝรั่งเศส ได้ประกาศมาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นครั้งที่ 2 ตลอดเดือนพฤศจิกายน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กลับมารุนแรงในปรเะเทศอีกครั้ง จะเริ่มบังคับใช้ในวันศุกร์ที่ 30 ต.ค. นี้ ประชาชนจะได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านได้ก็ต่อเมื่อไปทำงาน หรือเหตุผลทางการแพทย์เท่านั้น โดยจะต้องมีเอกสารรับรองเหมือนกับการล็อกดาวน์ครั้งที่ 1 เมื่อเดือนมีนาคม รวมทั้งโรงเรียนแลเโรงานเปิดตามปกติ สำหรับขณะที่ธุรกิจที่ไม่สำคัญ เช่น ร้านอาหารและบาร์ต่างๆ จุดถูกปิด
ผู้คนยังออกมาเดินข้างนอกหรือเยี่ยมบ้านพักคนชราได้ ฝรั่งเศสกำลังเผชิญการระบาดระลอกที่ 2 ของไวรัสโควิด-19 โดยมีผู้เสียชีวิตรายวันในระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน ขณะที่เมื่อวันอังคาร พวกเขามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 33,000 รายในวันเดียว ซึ่งนายมาครงเตือนว่า ประเทศนี้กำลังเสี่ยงจะถูกครอบงำโดยการระบาดระลอก 2 ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่า รุนแรงกว่าครั้งแรก
ผู้นำฝรั่งเศสกล่าวต่อว่า มาตรการจำกัดที่มีอยู่ไม่เพียงพออีกต่อไป ภายในกลางเดือนพฤศจิกายนนี้ เตียงห้องฉุกเฉินทั้งหมดอาจเต็มไปด้วยผู้ติดเชื้อโควิด-19 ถ้าหากไม่มีการเหยียบเบรกเพื่อหยุดไวรัส
โดยสัดส่วนของเตียงห้องฉุกเฉินของผู้ป่วยโตวิดมีสัดส่วนถึงถึง 70% ในปารีสข้อ จำกัด ใหม่ที่ประธานาธิบดี “มาครง” ประกาศเมื่อวันพุธคล้ายกับมาตรการที่นำมาใช้ในเดือนมีนาคม แต่มีข้อแตกต่างที่สำคัญบางประการ สำหรับธุรกิจมันจะเป็นการระเบิดครั้งใหญ่อีกครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับภาคส่วนเช่นความบันเทิงและกิจกรรมต่างๆ ประธานาธิบดี “มาครง” ให้คำมั่นว่าจะช่วยเหลือธุรกิจเอกชนแต่ไม่ได้ให้รายละเอียด
หลังจากเศรษฐกิจดีขึ้นในไตรมาสที่สามตอนนี้ดูเหมือนจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะหดตัวอีกครั้งระหว่างนี้ถึงสิ้นปีและตลอดทั้งปี 2020 รัฐบาลคาดการณ์ว่าตัวเลขจีดีพีจะลดลง 10%
เยอรมันประกาศล็อกดาวน์บางส่วน
ทางด้านประเทศเยอรมัน นายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล ระบุว่าต้องรีบดำเนินการทันทีและประกาศเรื่องการใช้มาตรการล็อกดาวน์บางส่วนใน 16 แคว้นทั่วประเทศ เป็นเวลา 4 สัปดาห์ตลอดเดือนพฤศจิกายน โดยจะมีการทบทวนเรื่องการใช้มาตรการอีกครั้งในทุกๆ 2 สัปดาห์ นับตั้งแต่ 2 พฤศจิกายนเป็นต้นไป ร้านอาหาร, บาร์ และคลับต่างๆ จะถูกปิด
เพื่อไม่ให้ประเทศเกิดภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข ผู้ที่อาศัยในเยอรมนีจะได้รับคำแนะนำให้อยู่แต่ในบ้าน หลีกเลี่ยงการเดินทาง เพื่อให้การสัมผัสติดต่อกันเหลือน้อยที่สุด ขณะที่จะจำกัดการรวมตัวในที่สาธารณะไม่ให้เกิน 2 ครัวเรือน ส่วนโรงเรียนกับโรงเรียนอนุบาลจะเปิดทำการตามปกติ แต่ต้องมีมาตรการรักษาความสะอาดที่เข้มงวด
ธุรกิจเอกชนขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจะได้รับเงินคืนมากถึง 75% ของยอดขายในเดือนพฤศจิกายน 2019 โดยรัฐบาลเยอรมันว่าจะมีประชุมกันใหม่ในวันที่ 11 พฤศจิกายนเพื่อประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
ทั้งนี้ เยอรมนีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 14,964 รายในวันพุธ ซึ่งเป็นสถิติใหม่ของประเทศ ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 449,275 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตทะลุ 1 หมื่นศพไปอยู่ที่ 10,098 ศพแล้ว
