ผู้บริหารซีพี ร่วมแสดงคำกล่าวอาลัย “พากพูม” ท่ีปรึกษาเสียชีวิตจากโควิด19 ระหว่างเจรจาซื้อกิจการเทสโก้มูลค่า 3.3 แสนล้านบาทที่ประเทศอังกฤษ

เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี)  โดยสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ และ นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร ได้แสดงคำกล่าวไว้อาลัย ต่อการจากไปของนายพากพูม วัลลิสุต ประธานกรรมการ บริษัทเดอะ ควอนท์ กรุ๊ป จำกัด ที่เสียชีวิตลงจากการติดเชื้อโควิด-19 หลังจากเดินทางกลับจากการเจรจาธุรกิจที่ประเทศอังกฤษ 

ขณะที่เอกสารของเครื่อซีพี ระบุว่า นายพากพูม วัลลิสุต เป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ และมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ ในด้านการเงินและวาณิชธนกิจ ทั้งยังสร้างคุณูปการทั้งในด้านการศึกษาและภาคธุรกิจที่เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและสังคม ตลอดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา ของเครือซีพี นายพากพูม ได้ทุ่มเทและทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถและเต็มไปด้วยความจริงใจ ในการนี้เครือซีพีขอแสดงความอาลัยต่อครอบครัวของคุณพากพูม ที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก และจะระลึกถึงคุณงามความดีของนายพากพูม วัลลิสุต ตลอดไป

โดยก่อนหน้านี้เครือซีพีได้ชี้แจง กรณีมีข่าวคณะผู้บริหารในเครือฯที่ร่วมเจรจาดีลการซิ้อห้าง “เทสโก้” ที่ประเทศอังกฤษยืนยันเดินทางกลับประเทศไทยคนละเที่ยวบินกับที่ปรึกษาฯ 

เมื่อมื่อการเจรจาเสร็จสิ้นได้เดินทางออกจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยเครื่องบินของบริษัทเพื่อกลับสู่ประเทศไทยเมื่อวันที่  9 มีนาคม 2563  โดยนายพากพูมไม่ได้ร่วมคณะกลับมาด้วย  

หลังจากเดินทางกลับคณะผู้บริหารได้ปฏิบัติตามมาตรการและแนวทางปฏิบัติของเครือฯ และเมื่อทราบว่าคณะที่ร่วมเจรจาติดเชื้อโควิท-19 ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยคณะผู้บริหารทุกคนที่ร่วมเจรจาได้ไปตรวจร่างกาย และทุกท่านมีผลออกมาเป็น Negative นอกจากนี้ที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีผู้บริหารป่วยรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลก็ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ทุกคนยังมีสุขภาพดีและได้หยุดพักแยกตัวเองหรือ Self-quarantine ตามมาตรการของบริษัทฯ นานถึง 3 สัปดาห์

อย่างไรก็ตามเครือเจริญโภคภัณฑ์ มีมาตรการและแนวทางปฏิบัติในช่วงวิกฤตไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด จนถึงปัจจุบันมีประกาศรวมแล้วทั้งสิ้น 10 ฉบับ ซึ่งครอบคลุมทั้งเรื่องการกักตัว หรือ Self-quarantine เมื่อเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ การจัดการภายในสถานที่ทำงาน การดูแลสุขภาพอนามัย การปฏิบัติงานที่บ้าน หรือ Work From Home ฯลฯ

ทั้งนี้การเจรจาซื้อกิจการเทสโก้ของกลุ่มซีพีได้ตกลงที่ราคา 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯหรือกว่า 330,000 ล้านบาทนับเป็นดีลใหญ่ที่สุดที่เคยซื้อกิจการในประเทศไทยซึ่งปัจจุบันอยู่ในกระบวนการซึ่งเดิมคาดว่าจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์กลางปีนี้