ผลสำรวจพบ”บัตรคนจน”ที่หนึ่งในใจคนไทย

.ประชาชนพอใจมากสุดเหตุช่วยลดรายจ่ายได้จริง

.ตามด้วยคนละครึ่ง-เราชนะ-เราเที่ยวด้วยกัน

.ส่วนเรารักกันรั้งท้ายเหตุรัฐให้เงินน้อยไม่คุ้มภาษีที่เสีย

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึงผลสำรวจทัศนคติต่อมาตรการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ ที่สำรวจจากประชาชนตัวอย่าง 1,215 รายทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 10-16 ก.พ.64 ว่า ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการต่างๆ ของภาครัฐ ทั้งผู้ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน เราชนะ และม.33เรารักกัน มีความพึงพอใจทุกโครงการ และต้องการให้รัฐบาลดำเนินการต่อไปทุกโครงการ  ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย และมีเงินจับจ่ายใช้สอยเพิ่มเติม  

สำหรับโครงการที่ประชาชนให้คะแนนสูงสุด คือ บัตรบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ส่วนอันดับ 2 คือ คนละครึ่ง อันดับ 3 เราชนะ อันดับ 4 เราเที่ยวด้วยกัน และอันดับ 5 เรารักกัน โดยสาเหตุที่เรารักกัน อยู่อันดับสุดท้าย เพราะแม้กลุ่มชนชั้นกลางจะได้รับประโยชน์ จากเงินภาษีที่เสียไป แต่มองว่า จำนวนเงินที่รัฐให้ 4,000 บาท น้อยเกินไป   

“เมื่อประเมินผลจาก 3 โครงการหลัก ทั้งเราชนะ, คนละครึ่ง และม.33เรารักกัน  จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มขึ้นอีก 1.76% จากเม็ดเงินที่รัฐอัดฉีดเข้าไปกว่า 300,000 ล้านบาท ส่งผลให้ในช่วงครึ่งปีแรกผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จะขยายตัวได้ 1.5% และในช่วงครึ่งปีหลังขยายตัว  4.5% ทำให้ทั้งปีจีดีพีจะขยายตัว 2.8-3.0% และเมื่อมีการกระจายวัคซีนทั่วโลก การท่องเที่ยวสามารถกลับมาฟื้นตัวได้ ภายใต้มาตรการต่างๆ เปิดรับนักท่องเที่ยวได้ 6 ล้านคน เศรษฐกิจไทยปีนี้ อาจขยายตัวเป็น 3.0-3.5% ได้” 

อย่างไรก็ตาม แม้กลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจในโครงการต่างๆ ของรัฐ แต่ยังมีปัญหาอยู่มาก โดยเฉพาะแอปพลิเคชันเป๋าตังล่มบ่อย ระบบล่าช้า รอนานเกินไป, สินค้าราคาแพงขึ้น และมีสินค้าเข้าร่วมโครงการน้อยเกินไป, ไม่มีเงินฝากในบัญชี ทำให้ไม่มีเงินเติมในแอปเป๋าตังก่อนการใช้งาน, ลงทะเบียนไม่ทัน, ไม่ได้รับเอสเอ็มเอสแจ้งการใช้งาน, ไม่มีโทรศัพท์ และไม่มีอินเตอร์เน็ต 

ส่วนผลสำรวจทัศนคติ พฤติกรรมและการใช้จ่ายช่วงวันมาฆบูชานั้น คาดว่า ปีนี้จะมีมูลค่าการใช้จ่ายในช่วงนี้ 2,360 ล้านบาท ติดลบ 9.38% จากปี 62 ถือว่ามีมูลค่าต่ำสุดในรอบ 6 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 58 เพราะคนใช้จ่ายเงินด้านต่างๆ ลดลง ทั้งทำบุญ และเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งโดยรวมประชาชนมีการใช้จ่ายคนละ 1,311 บาท เท่านั้น