ผลศึกษาของหน่วยงานสหรัฐพบวัคซีนไฟเซอร์และโมเดอร์นา มีประสิทธิภาพ 90% หลังฉีดครบสองโดส

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) เปิดเผยในรายงานการเจ็บป่วยและการเสียชีวิตพบว่าวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นา มีประสิทธิภาพในการป้องกันสูง เมื่อทำการฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้วมีประสิทธิภาพถึง 90% ในการป้องกันการติดเชื้อรวมถึงการติดเชื้อที่ไม่มีอาการ ขณะที่หลังการฉีดโดสแรกอย่างน้อย 14 วัน ก่อนการฉีดโดสที่สอง ามารถป้องกันได้ 80%

การศึกษาดังกล่าวจากฉีดวัคซีนเกือบ 4,000 คนสำหรับกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์และกลุ่มผู้ได้รับวัคซีนกลุ่มแรก อาสาสมัครในการศึกษาได้ทำงานในสถานที่ 8 แห่งทั่วประเทศตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมถึงกลางเดือนมีนาคม

แคนาดาระงับใช้แอสตราเซเนกาสำหรับำพลเมืองอายุต่ำกว่า 55 ปี

ทางด้านประเทศแคนาดา โดยคณะกรรมการวัตซีนเตรียมแนะนำให้หยุดการฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกา สำหรับพลเมืองแคนาดาที่มีอายุต่ำกกว่า 55 ปี จากคณะกรรมการที่ปรึกษาแห่งชาติของแคนาดาเกี่ยวกับการสร้างภูมิคุ้มกัน (NACI) จากรายงาน เนื่องจากปัญหาความปลอดภัยหลังจากรายงานจากยุโรปเกี่ยวกับกรณีการเกิดลิ่มเลือดในผู้ป่วยที่ได้รับวัคซีนบางรายโดยเฉพาะในกลุ่มสตรีอายุน้อย ขณะที่เจ้าหน้าที่ทางการแคนาดาได้ทำการฉีดวัคซีนดังกล่าวไปแล้วจำนวน 3 แสนโดส โดยไม่มีการอุดตันของเลือด

จอห์นสัน เตรีมจัดส่งวัคซีนโดสเดียวให้ยุโรป 19 เมษายนนี้

ขณะเดียวกันมีรายงานว่าทาง จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (J&J)  ระบุว่าจะเริ่มส่งมอบวัคซีนโควิดชนิดฉีดครั้งเดียวไปยังยุโรปในวันที่ 19 เมษายนนี้่ หลังจากได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลของสหภาพยุโรปเมื่อกลางเดือนมีนาคมต่อจาก ไฟเซอร์, โมเดอร์นา, และแอสตราเซเนกา 

ทั้งนี้ทางสหภาพยุโรปได้ลงนามในคำสั่งซื้อ J&J จำนวน 200 ล้านโดสและออปชั่นเพิ่มเพิ่มเติมอีก 200 ล้านโดส

สำหรับวัคซีนของ J&J นอกจากจะฉีดเพียงโดสเดียวแล้ว ยังเก็บได้ง่ายกว่ากว่าวัคซีนที่ฉีดสองโดสเมื่อเทียบกับค่ายอื่ย  

ที่มา- https://edition.cnn.com/2021/03/29/health/pfizer-and-moderna-covid-19-vaccines-work-wellness/index.html