ป่าไม้ไทยต้องอยู่!…ครม.อนุมัติงบกลางจ้างงานผู้พิทักษ์ป่าแล้ว

วราวุธ”รมว.ทส. ระบุ ครม. อนุมัติงบกลาง 251 ล้านบาท จ้างงานผู้พิทักษ์ป่าที่ถูกเลิกจ้างแล้ว พร้อมขอบคุณแทนเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าไทยที่ทุกฝ่ายห่วงใยและให้ความสำคัญ โดยหวังว่า ต่อไปจะไม่ตัดงบประมาณส่วนนี้อีกเพื่อเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าจะทำงานได้เต็มที่โดยไม่ต้องกังวลถึงความมั่นคงในชีวิต

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ที่ประชุมครม. เห็นชอบอนุมัติงบประมาณจากงบกลาง 251 ล้านบาทตามที่กระทรวงเสนอ สำหรับใช้เป็นเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน โดยเป็นค่าจ้างเหมาพนักงานในการจ้างปฏิบัติงานตามภารกิจสำคัญของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ผ่านมา การปรับลดงบประมาณประจำปีของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมซึ่งรวมถึงงบประมาณสำหรับจ้างงานเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าด้วย แล้วส่งผลให้เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าของอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศที่ถูกเลิกจ้างสูงถึง 50% และที่เหลือถูกปรับลดเงินเดือน

สำหรับงบกลาง 251 ล้านบาทดังกล่าวจะใช้เป็นค่าจ้างเหมาพนักงานในการจ้างปฏิบัติงานตามภารกิจของกรมอุทยานฯ 3,999 อัตรา ระยะเวลาการจ้าง 7 เดือน (มี.ค.- ก.ย.65) อัตราละ 9,000 บาทต่อเดือนแบ่งเป็นงานอนุรักษ์และป้องกันรักษาป่า 3,556 อัตรา เป็นเงิน 225 ล้านบาท งานควบคุมไฟป่า 368 อัตรา เป็นเงิน 23 ล้านบาท และงานตรวจปราบปรามการค้าสัตว์ป่าระหว่างประเทศ 45 อัตรา เป็นเงิน 2.8 ล้านบาท

นายวราวุธ กล่าวต่อว่า ภารกิจของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่ามีทั้งงานลาดตระเวนปกป้องผืนป่าและสัตว์ป่า รวมถึงเก็บข้อมูลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในอุทยานแห่งชาติเพื่อใช้ในการอนุรักษ์จึงเป็นภารกิจที่สำคัญอย่างยิ่ง จึงขอวอนอย่าตัดลดงบประมาณส่วนนี้เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าทำงานอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของชีวิต

เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่ารายหนึ่งของอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ กล่าวว่า ดีใจที่รัฐบาลอนุมัติงบกลางให้ เนื่องจากทางอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ใช้วิธีลดเงินเดือนจาก 9,000 บาท เหลือ 7,500 บาทและ 6,600 บาทเพื่อที่จะสามารถจ้างทุกอัตราได้ รวมถึงค่าตอบแทนการลาดตระเวนจากเดิมให้รอบละ 15 วัน วันละ 4 ชั่วโมง เหลือรอบละ 10 วัน วันละ 2 ชั่วโมง ค่าตอบแทนของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าน้อยอยู่แล้ว เมื่อเทียบกับภารกิจเสี่ยงภัย ต้องลาดตระเวน กินนอนในป่า เมื่อปรับลดลงจึงเป็นผลให้บางคนลาออกเพื่อไปหางานอื่น แม้จะรักงานพิทักษ์ป่ามากก็ตาม

ทั้งนี้ ขอร้องว่า อย่าตัดงบจ้างเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอีกเลยเพราะไม่ต้องการทำงานด้วยความกังวลว่า ปีต่อไปจะได้ต่อสัญญาหรือไม่ รวมถึงจะทำให้ต้องสูญเสียเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญในการลาดตระเวนและเก็บข้อมูลทรัพยากรในป่าอีกด้วย