.หลังซ่อมท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 ล่าช้า
.เหตุส่งไปซ่อมที่แคนาดาแต่ส่งกลับมาให้ช้า
.ผู้ผลิตเหล็กเอเชียหวั่นราคาเหล็กร่วงหลังรัสเซียทุ่มส่งออก
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เปิดเผย เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ว่า ศักยภาพในการส่งของท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 ท่อส่งขนาดใหญ่ที่สุดที่ลำเลียงก๊าซจากรัสเซียให้กับยุโรป อาจลดลงอีก หลังการซ่อมบำรุงอุปกรณ์ท่อส่งก๊าซล่าช้า โดยมีกำหนดการซ่อมระหว่างวันที่ 11-21 ก.ค.นี้
ปธน.ปูติน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวหลังจากเดินทางเยือนอิหร่านว่า ท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 มีเครื่องสูบก๊าซ 5 ตัวที่ดำเนินการโดยบริษัท ซีเมนส์ เอเนอร์จี แต่ทำงานได้เพียง 2 ตัว และอีกเครื่องหนึ่งที่ไม่ทำงาน เพราะชิ้นส่วนภายในแตกหัก
“ขณะนี้ เครื่องสูบก๊าซที่ทำงานได้เหลือแค่ 2 ตัว ที่ท่อส่ง Nord Stream 1 ซึ่งสามารถสูบก๊าซได้ประมาณ 60 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน และหากเครื่องสูบอีกตัว ยังไม่กลับมาใช้งานได้ เราจะต้องส่งกังหันสูบก๊าซอีกตัวหนึ่งไปซ่อมแซมในวันที่ 26 ก.ค.” ปธน.ปูตินกล่าว
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 ซึ่งลำเลียงก๊าซจากทะเลบอลติกไปยังเยอรมนี ถูกจับตาอย่างใกล้ชิดนับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่ผ่านมา Nord Stream 1 มีศักยภาพลำเลียงก๊าซมากกว่า 55,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปีไปยังสหภาพยุโรป (อียู) โดยในปี 64 อียู ได้รับก๊าซจากรัสเซียผ่านท่อส่งดังกล่าวในปริมาณ 14,000 ล้านลูกบาศก์เมตร
บริษัทก๊าซพรอม บริษัทพลังงานรายใหญ่ของรัสเซียได้ลดการส่งออกก๊าซผ่าน Nord Stream 1 เหลือเพียง 40% ในเดือนที่แล้ว โดยอ้างว่า บริษัทซีเมนส์ เอเนอร์จี ส่งคืนอุปกรณ์กังหันท่อส่งก๊าซกลับมาให้ล่าช้า หลังจากส่งไปซ่อมที่แคนาดา เพราะแคนาดาสั่งห้ามส่งอุปกรณ์ดังกล่าวกลับมาให้ก๊าซพรอม เนื่องจากต้องดำเนินการตามมาตรการคว่ำบาตรของนานาประเทศ
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ขณะนี้ ผู้ผลิตเหล็กในเอเชียกังวลว่า ราคาเหล็กจะลดลงหลังจากรัสเซียส่งออกเหล็กจำนวนมากมายังเอเชีย และอาจทำให้รัสเซียถูกใช้มาตรการจตอบโต้ทางการค้า
กลุ่มผู้ผลิตเหล็กในเอเชีย ระบุว่า รัสเซียกำลังส่งออกเหล็กไปยังประเทศฝั่งตะวันออกมากขึ้น หลังจากมาตรการคว่ำบาตร ทำให้รัสเซียไม่สามารถเข้าถึงตลาดฝั่งตะวันตกได้ ขณะที่สงครามในยูเครน ส่งผลให้การส่งออกในภูมิภาคทะเลดำหยุดชะงัก โดยการกระทำดังกล่าวของรัสเซีย ได้เพิ่มแรงกดดันต่อตลาด ซึ่งได้รับผลกระทบอยู่แล้วจากความต้องการใช้ของจีนที่ชะลอลง
ทั้งนี้ ขณะนี้บริษัทไชน่า สตีล คอร์ป ของไต้หวันกำลังรวบรวมหลักฐาน เพื่อเตรียมใช้มาตรการตอบโต้พฤติกรรมที่ไม่เป็นธรรม ขณะที่บริษัท โตเกียว สตีล แมนูแฟคเจอริงของญี่ปุ่น ระบุว่า จีนอาจจะหันมาสั่งซื้อเหล็กราคาถูกจากรัสเซีย เมื่อต้องการภายในประเทศเริ่มฟื้นตัว แทนการนำเข้าเหล็กจากเอเชีย
