ปี63พาณิชย์ตั้งเป้าส่งออกข้าวแค่7.5ล้านตัน

  • เหตุภัยแล้งทำผลผลิตลด-บาทแข็งดันราคาพุ่ง
  • ขณะที่จีนหันแข่งส่งออกหลังสต๊อกพุ่ง120ล้านตัน
  • เดินหน้าพัฒนาสายพันธุ์ข้าวพื้นนิ่มราคาถูกสู้คู่แข่ง

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงการส่งออกข้าวไทยว่า ในปี 63 กรมตั้งเป้าหมายส่งออกไว้ที่ 7.5 ล้านตัน ลดลงจากปี 62 ที่ส่งออกได้ 7.58 ล้านตัน เพราะคาดว่า ผลผลิตข้าวไทยปีนี้จะลดลงมาก จากปัญหาภัยแล้ง, ค่าเงินบาทแข็งค่ามากกว่าคู่แข่ง โดยเฉพาะเวียดนาม อินเดีย ทำให้ราคาข้าวไทยแพงกว่าคู่แข่งมาก และผู้ซื้อหันไปซื้อข้าวจากคู่แข่งแทน อีกทั้งจีน ซึ่งเดิมเคยเป็นผู้นำเข้า แต่ปัจจุบันกลายมาเป็นผู้ส่งออกและแย่งส่วนแบ่งตลาดข้าวไทยในบางประเทศ โดยเฉพาะแอฟริกา เพราะมีสต๊อกข้าวปีนี้มากถึงกว่า 120 ล้านตัน รวมถึงข้าวไทยไม่มีความหลากหลายมากพอ ที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าในหลายกลุ่ม จึงทำให้ตลาดข้าวบางชนิดกลายเป็นของคู่แข่งแทน โดยเฉพาะข้าวพื้นนิ่ม

”ในปีนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น ได้ร่วมกันกำหนดแผนงานพัฒนาศักยภาพการแข่งขันข้าวไทย โดยจะเน้นพัฒนาสายพันธุ์ข้าว เพื่อให้ตรงกับความต้องการของตลาด อย่างปัจจุบัน ผู้ซื้อหลายประเทศ อย่างมาเลเซีย ฮ่องกง หรือแม้แต่จีน ต้องการข้าวพื้นนิ่ม ที่มีความนุ่ม ซึ่งข้าวหอมมะลิไทยก็ใช่ แต่ราคาแพง จึงต้องพัฒนาข้าวพื้นนิ่มสายพันธุ์อื่น เช่น กข79 เข้ามาทำตลาดแข่งกับข้าวพื้นนิ่มของคู่แข่ง ที่ราคาถูกกว่า โดยจะมีการประชุมร่วมกันในวันที่ 14 ก.พ.นี้”

นายกีรติ กล่าวต่อถึงแผนการประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในปี 63 ว่า กรมจะเดินหน้าประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบการจัดคณะผู้แทนการค้าเดินทางไปประชาสัมพันธ์ในประเทศต่างๆ ทั้งที่เป็นลูกค้าหลัก อย่าง มาเลเซีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และตลาดที่มีศักยภาพที่จะนำเข้าข้าวไทย เช่น แอฟริกา รวมถึงการเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและผลักดันการส่งออกข้าวไทย

ทั้งนี้ ในปี 62 ไทยส่งออกข้าวได้เป็นดับ 2 ของโลก ที่ปริมาณ 7.58 ล้านตัน ลดลง 32.50% จากปี 61 ที่ส่งออกได้ 11.23 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 4,206 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 25% โดยประเทศที่ส่งออกมากที่สุดในโลกคือ อินเดีย 10.6 ล้านตัน ส่วนอันดับ 3 เวียดนาม 6.85 ล้านตัน, ปากีสถาน 4.6 ล้านตัน และสหรัฐฯ 3.05 ล้านตัน ขณะที่ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-6 ก.พ.63 ไทยส่งออกข้าวแล้ว 699,000 ตัน ลดลง 39% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ส่งออกได้ 1.1 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 399 ล้านเหรียญฯ ลดลง 28% หรือ 11,963 ล้านบาท ลดลง 33%