ปี 73 ผู้บริโภคเอเชียมีค่าใช้จ่ายอาหารเพิ่มขึ้น 2 เท่า

.อยู่ที่ 8 ล้านล้านเหรียญฯจากเดิม 4 ล้านล้านเหรียญฯ
.อินเดีย-อาเซียนเพิ่มสูงสุดส่วนจีนเป็นตลาดใหญ่สุดในโลก
.หลังคนใส่ใจสุขภาพเลือกซื้อของดีมีคุณภาพราคาแพงขึ้น

เอ็นบีซีรายงานว่า รายงาน Asia Food Challenge Report ประจำปี 2564 ที่จัดทำโดย PwC, โรโบแบงก์ และเทมาเส็ก ระบุว่า ผู้บริโภคชาวเอเชียจะมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาหารมากขึ้นเป็น 2 เท่าภายในปี 2573 ซึ่งจะทำให้มีโอกาสอย่างมากที่บรรดานักลงทุนจะนำเสนอตัวเลือกด้านอาหารที่ดีต่อสุขภาพและมีความยั่งยืนมากขึ้น

รายงานชี้ว่า ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาหารในเอเชียจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในต้นทศวรรษหน้า จาก 4 ล้านล้านเหรียญฯในปี 2562 ซึ่งจะทำให้ทวีปเอเชียเป็นตลาดอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดของโลก เพราะจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว คาดว่า ภายในปี 2573 ทวีปเอเชียจะมีประชากร 4,500 ล้านคน และมีชนชั้นกลาง 65% ของโลก อีกทั้งผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพและมีความรู้ด้านดิจิทัลมากขึ้น

ทั้งนี้ ผู้บริโภคอินเดียและในอาเซียน มีแนวโน้มจะเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านอาหารมากที่สุด โดยเพิ่มขึ้นปีละ 5.3% และ 4.7% ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม จีนจะยังคงครองตำแหน่งตลาดผู้บริโภคใหญ่ที่สุดในโลกโดยรวม 

โดยมูลค่าใช้จ่ายที่คาดเพิ่มขึ้นนั้น มาจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภค 3,600 คนในเอเชียแปซิฟิก 12 ประเทศ รวมถึงการพูดคุยกับผู้บริหารระดับสูงในภาคอุตสาหกรรมอาหาร และการวิเคราะห์ข้อมูลของบริษัทอาหารและเครื่องดื่มกว่า 3,000 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 

นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า จะต้องมีการลงทุน 1.55 ล้านเหรียญฯภายในปี 2573 ทั่วทั้งห่วงโซ่การผลิต จึงจะตอบสนองความต้องการด้านอาหารที่เพิ่มขึ้นได้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 750,000 ล้านเหรียญฯ จากมูลค่าการลงทุนเบื้องต้น 800,000 ล้านเหรียญฯ ที่รายงานประจำปี 2562 เคยระบุไว้ 

นายอนุช มเหศวารี กรรมการผู้จัดการฝ่ายธุรกิจการเกษตรของเทมาเส็ก กล่าวว่า “ประชาชนต้องการบริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ต้องการซื้ออาหารที่ปลอดภัยมากขึ้น และซื้อทางออนไลน์ รวมถึงซื้ออาหารที่มีความยั่งยืน”