ในช่วงก่อนปีใหม่ เป็นเรื่องปกติอย่างหนึ่งที่หลายๆ คนจะมาทบทวนสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงปีเก่าที่กำลังจะผ่านไป เพื่อเริ่มต้นปีใหม่ให้สดใสกว่าในปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม การทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ใช่การพยายามค้นหาข้อบกพร่อง หรือโทษตัวเอง เพราะนั่นไม่ใช่แก่น หรือสาระสำคัญในการเหลียวหลังกลับไปมองปีเก่า แต่การทบทวนเรื่องต่างๆ หลังจากผ่านไประยะหนึ่ง จะทำให้เราได้มุมมองใหม่ๆ ที่ลดทอนการมองโดยใช้อารมณ์มากขึ้น ได้อ่านตำราฝรั่งเล่มหนึ่ง แนะนำ5 สิ่งที่อยากให้ทบทวนก่อนปีใหม่ ลองดูว่าเมื่อทบทวนทั้ง 5 ข้อนี้แล้ว เราได้มุมมองใหม่ๆ อะไรกันบ้าง
ข้อที่ 1 ทบทวนการใช้จ่าย ข้อแรกที่แนะนำในทบทวน คือ สุขภาพทางการเงิน ลองดูว่า เราใช้จ่ายเงินอย่างไร จ่ายเฉพาะที่จำเป็นจริง หรือยังคงชอปปิ้งเพื่อหน้าตา หรือชอปปิ้งแก้เครียด แก้เบื่อ แก้เหงา อยู่ไหม เงินที่ใช้จ่ายไปใช้เพื่ออะไรเป็นหลัก และที่สไำคัญลองคำนวณดูเล่นๆ ว่า รายได้ และรายจ่ายทั้งปีหักกลบลบหนี้กัน เรามีเงินออมในปีนี้เหลือเท่าไร ถ้าคำตอบคือ “ไม่เหลือ” หรือเป็นหนี้ ปีนี้ลองเปลี่ยนการใช้เงินดูสักที ปีหน้าฟ้าใหม่จะได้เหลือเก็บบ้าง
ข้อที่ 2 ทบทวนความคิด และคำพูด “คำพูด” หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่จริงๆ แล้ว คำพูดที่เราพูดออกไปแล้ว ถือเป็นนายของเรา เพราะคำพูดสะท้อนความคิดของเรา และยิ่งเป็นคำพูดที่พูดออกไปโดยไม่คิดยิ่งแย่ใหญ่ ลองพิจารณา “ความคิด และคำพูด” ของเราในปีที่ผ่านมา ว่า เราได้แสดงความชื่นชมคนอื่นอย่างจริงใจกี่ครั้ง และเราได้พูดจาทำร้ายคนอื่น ทั้งต่อหน้าและลับหลังกี่ครั้ง หากปีที่ผ่านมา คำพูดของเรา ทำให้คนอื่นไม่สบายใจ ปีหน้าระวังความคิด ระวังให้ดีขึ้น
ข้อที่ 3 ทบทวน “การให้” และ “การรับ” สุภาษิตฝรั่ง บอกไว้ชัดเจน ว่า “เป็นผู้ให้ดีกว่าเป็นผู้รับ” แต่ไมได้หมายความว่า เมื่อเป็นผู้ให้แล้วจะเป็นผู้รับด้วยไม่ได้ เพราะยิ่งเราให้ เราจะยิ่งได้รับมากขึ้น อย่างแรกที่จะได้รับคือ ความสุขของการเป็นผู้ให้ และหากคนอื่นจะให้เรากลับคืนมาด้วย หรือไม่ คิดว่าส่วนนี้ไม่มีขาดทุนหรือต้องเสียใจ เพราะการให้เป็น “กำไร” ของชีวิต
ข้อที่ 4 เรา “คาดหวัง” มากเกินไปไหม ในปีที่ผ่านมาหลายคนอาจจะบอกว่า “ชีิวิตมันแย่” ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ ทำเสร็จก็ไม่ดีเท่าที่หวัง หรือ ทำคุณกับใครไม่ขึ้น หัวหน้าไม่เห็นความดี เพื่อนฝูงไม่ใส่ใจ ลองถามตัวเองอีกทีว่า สิ่งที่เราอยากได้นั้น เราคาดหวังกับมันมากไปหรือไม่ เพราะการคาดหวังมีสูงเกินไป อาจจะทำให้เราไม่มีความสุขกับ “สิ่งดีๆ” ที่เรามีอยู่ในชีวิต ลองมองในด้านบวก และมองคนที่ลำบากกว่าเรา และเราจะรู้ว่า การมีชีวิตอยู่ของเราไม่ได้น่าผิดหวังอย่างที่เราคิดเลย
ข้อที่ 5 เราทำดีกับคนที่เรารักและรักเรามากแค่ไหน ก่อนที่จะให้ใครมาทำอะไรให้เรา ลองทบทวนดูว่า เราทำดีกับคนที่เรารัก เราแสดงความจริงใจ และมีน้ำใจกับคนที่รักเรามากแค่ไหนในปีที่ผ่านมา เราไปหาพ่อแม่ กินข้าวกับพ่อแม่บ่อยไหม เราซื้อของให้คนที่มีพระคุณกับเรามากน้อยแค่ไหน เราทำสิ่งดีๆ แสดงความมีน้ำใจ พร้อมจะอยู่เคียงข้างเพื่อน พี่น้องของเราแล้วหรือไม่ ถ้าเราทำดีแล้วความสบายใจจะกลับมาหาเราเอง แต่ถ้าทำไม่พอ ปีหน้าอีก 366 วันเริ่มต้นกันใหม่ ขอให้มีความสุขส่งท้ายปี และมีปีัใหม่ที่สุดใสกันทุกคน
