ปิด Apple Store ในสหรัฐเป็นการชั่วคราว เตือนหัวขโมยไม่สามารถเปิด iPhoneได้และยังสามารถตามได้ว่าที่ถูกขโมยไปอยู่ที่ไหน

Apple ปิดร้านค้าปลีกส่วนใหญ่ในสหรัฐฯ เป็นชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยของพนักงานและลูกค้าเนื่องจากการประท้วงที่เกิดขึ้นเนื่องจากการตายของ “จอร์จ ฟลอยด์” ในเมืองมินนิอาโปลิส รัฐมินนิโซต้า ที่ยังคงแพร่กระจายไปทั่วประเทศ ร้าน Apple Store จำนวนหลายสาขาเป็นแบรนด์หนึ่งที่ตกเป็นของกลุ่มผู้ฉวยโอกาสเข้าไปบุกปล้น สร้างความเสียหาย

Apple กล่าวว่าการปิดร้านจะคงอยู่จนถึงวันอาทิตย์ สถานที่บางแห่งที่มีความเสียหายจำนวนมากมีการปิดอย่างไม่จำกัด ในหน้าเว็บของพวกเขา เมื่อคำนึงถึงสุขภาพและความปลอดภัยของทีมงานของเราได้ตัดสินใจที่จะปิดร้านของเราในสหรัฐอเมริกาในวันอาทิตย์

ทั้งนี้ Apple เพิ่งเปิดร้านค้าปลีกในสหรัฐฯ 140 สาขา จำนวน 271 สาขา จากมาตรการผ่อนคลายของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด19 ก่อนที่การประท้วงจะปะทุในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

หนึ่งในร้านแรกที่ตั้งเป้าหมายไว้คือ Apple Uptown ในเมืองนินนิอาโปลิส ซึ่งถูกปล้นด้วย ตามด้วยสาขาในเมืองพอร์ตแลนด์, ฟิลาเดลเฟีย, บรุกลิน, ซอลต์เลกซิตี้, ลอสแองเจลิส, ชาร์ลสตัน, วอชิงตัน ดี.ซี. , สกอตส์เดลและซานฟรานซิสโก 

ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ของ Apple ที่ถูกขโมยจากร้านค้านั้นไม่สามารถใช้งานได้หลังจากเอาออกจากร่านและสามารถติดตามสินค้าได้โดยเจ้าหน้าที่

ด้าน “ทิม คุก” ซีอีโอ ของ Apple มาตรการปกป้องพนักงานของ Apple ยังไม่ได้ถูกนำไปใช้ในระดับสากล ขณะที่เขาพูดถึงการเลือกปฏิบัติและความไม่เท่าเทียมในสหรัฐอเมริกา ในบันทึกภายในให้กับพนักงาน Apple 

“คุก” พูดเพื่อสิทธิมนุษยชนและต่อต้านความไม่เท่าเทียมทำให้ความคิดเห็นหลังจากการสังหารจอร์จฟลอยด์ในมินนิอาโปลิสซึ่งจุดประกายการประท้วงและการจลาจลทั่วประเทศในคืนวันเสาร์ พนักงานหลายคนมีความกังวลเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติในชุมชนของพวกเขา

ผู้บริหารของ Apple กล่าวว่า บริษัท จะทำการบริจาคให้กับกลุ่มต่างๆรวมถึง Equal Justice Initiative ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรที่มุ่งเน้นความอยุติธรรมทางเชื้อชาติ โดย Apple จะเสนอการจับคู่แบบสองต่อหนึ่งของพนักงานสำหรับการบริจาคในเดือนมิถุนายน