“ปารีณา”จ่อฟ้อง“เลขาฯชวน”

น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า นายชวน หลีกภัยประธานสภาฯ ไม่เป็นสุภาพบุรุษอย่างที่คิด ส่วนตัว ไม่คิดว่าหลังจากที่ขอความเมตตาให้หยุดเลือกปฏิบัติ กรณีขอให้ประธานสภาฯ ดำเนินการสอบจริยธรรม พลตำรวจเอกเสรีพิสุทธิ์ เตมียเวส ประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ก็ไม่คิดว่า นายชวนจะส่งเลขานุการประธานสภาฯ มาแถลงข่าวอันเป็นเท็จ ยืนยันว่า ตนเองไม่ได้พูดให้คนเข้าใจผิด

และขอย้ำว่า นายชวนเลือกปฏิบัติจริงๆ ในข้อบังคับการประชุมเรื่องการหารือ สมาชิกรัฐสภาสามารถหารือเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน และเรื่องทั่วไป ซึ่งที่ผ่านมา มีการหารือเรื่องทั่วไป คือเรื่องห้องน้ำ ที่จอดรถ ผู้ติดตามที่จะเข้ามาในสภา อีกทั้งมีการหารือของส.ส.พรรคอนาคตใหม่ประเด็นการเมืองพูดจาใช้คำหยาบคายต่อพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประธานสภาฯ อนุญาตทั้งหมด แต่ตนเองจะหารือให้นายชวน ดำเนินการสอบจริยธรรมพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นในรัฐสภาขณะที่มีการประชุมกรรมาธิการฯ นายชวนไม่อนุญาต ซึ่งตนเองน้อมรับการตัดสินใจนายชวน แต่อยากจะขอให้นายชวนไม่เลือกปฏิบัติ เพราะหากไม่อนุญาตให้ตนเองหารือเรื่องทั่วไป ก็ต้องไม่อนุญาตทุกคนไม่หารือเรื่องทั่วไปเช่นเดียวกัน

อีกทั้งการที่เลขานุการของนายชวนฯ กล่าวหาว่าตนเองใส่ร้าย พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ จึงขอถามกลับว่า ใครใส่ร้ายใครกันแน่ คำพูดต่อว่า ด่าทอ ดูถูก ดูหมิ่น ชี้หน้า ที่เกิดในรัฐสภาขณะมีการประชุมกรรมาธิการฯ ปรากฏในสื่อต่างๆและสังคมได้รับรู้และเห็นกิริยาดังกล่าวแล้ว ไม่ได้ใส่ร้ายใคร เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องประชุมขณะกำลังมีการประชุมกรรมาธิการ ซึ่งตนเองจะดำเนินคดีกับเลขานุการประธานสภาฯ ในการแถลงข่าวเท็จในครั้งนี้ และนอกจากนี้ จะร้องสอบจริยธรรมเลขานุการนายชวนเช่นเดียวกัน เนื่องจากใช้คำพูดว่า ควรเป็นผู้แทนที่คนราชบุรีภูมิใจ เสมือนพูดเพื่อเป็นการเสียดสี แต่รับรองว่าจะไม่นำไปหารือในสภาเพราะกลัวถูกตัดไมค์อีก

“วันนี้หัวใจสลาย ผิดหวัง ทั้งท่านชวน และเลขาฯ ท่านชวน ที่ไม่เป็นสุภาพบุรุษอย่างที่คิด” น.ส.ปารีณา กล่าว

ส่วนกรณี นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาฯ อ้างว่าเคยเรียนจิตเวชทำให้เข้าใจตนเองนั้น น.ส.ปารีณา กล่าวว่า เป็นเพียงการพูดเพื่อเสียดสี เพราะจริงแล้ว นพ.สุกิจเป็นเพียงหมอรักษาโรคทั่วไป แต่ตนเองต่างหากที่เข้าใจ นพ.สุกิจโดยไม่เคยเรียนจิตเวช เพราะมีเพื่อนที่สมัคร ส.ส.แล้วสอบตกหลายคน จะมีอาการคล้ายๆ กันทุกคน คือไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ บิดเบือนความเป็นจริง เข้าใจว่าตนเองดีมาก

ส่วนคนอื่นสกปรกโสโครกชั่วร้าย และประชาชนก็แค่ไปเลือกคนชั่วร้ายคนดีมากๆ เลยแพ้สอบตกไม่เป็นท่า อยากให้ยอมรับว่าแพ้ก็คือแพ้ สู้ไม่ได้ คนแพ้ส่วนใหญ่จะมีอาการเพ้อ และอยู่ในโลกของตนเองตามอาการดังกล่าว จึงขอฝากนพ.สุกิจ ให้ทำความดี พูดจาดีๆ สนใจเรื่องของประชาชนให้มากกว่าการโทษคนอื่นสกปรกโสโครกชั่วร้าย เผื่อครั้งหน้าจะได้สอบไม่ตกอีก