“ปศุสัตว์” เผย4 ปี ซากสุกรตามพื้นที่แนวตะเข็บชายแดนมาอย่างต่อเนื่อง

  • ซากสุกร 339,192 กิโลกรัม มูลค่าของกลางกว่า 79 ล้านบาท
  • เตรียมความพร้อมโรค ASF ในสุกร เป็นวาระแห่งชาติ
  • เพื่อป้องกันโรคติดต่อและความปลอดภัยในการบริโภคเนื้อหมู

นายสัตวแพทย์สรวิศ  ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์ ได้ปฏิบัติงานตรวจยึดซากสุกรตามพื้นที่แนวตะเข็บชายแดนมาอย่างต่อเนื่อง โดยผลการตรวจยึดซากสุกร 4 ปีที่ผ่านมา (ปี 2562 – 2565) ตรวจสอบการลักลอบนำเข้าซากสัตว์ 3,516 ครั้ง แจ้งความดำเนินคดี 20 คดี (ร่วมกับศุลกากร 3 คดี) ยึดและดำเนินการทำลายซากสุกร 339,192 กิโลกรัม มูลค่าของกลางกว่า 79 ล้านบาท 

สำหรับในปี 2565 ผลการปฏิบัติงานช่วงเดือนมกราคม – เดือนกรกฎาคม 2565 ดำเนินการตรวจสอบการลักลอบนำเข้าจำนวน  2,425 ครั้ง แจ้งความดำเนินคดี 13 คดี (ร่วมกับศุลกากร 3 คดี) ยึดและดำเนินการทำลายซากสุกร 325,027 กิโลกรัม มูลค่าของกลางกว่า 65 ล้านบาท

นายสัตวแพทย์สรวิศ กล่าวว่า มาตรการเพื่อเตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรค ASF ในสุกร กรมปศุสัตว์ ได้ดำเนินการตามมาตรการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการ ประกอบด้วย 1) มาตรการเตรียมความพร้อม โดยจัดทำแผนเตรียมความพร้อมเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค และยกระดับแผนเตรียมความพร้อมโรค ASF ในสุกร เป็นวาระแห่งชาติ มีการจัดตั้ง War Room ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ซ้อมแผนรับมือโรคฯ ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมทางห้องปฏิบัติการในการตรวจวินิจฉัย และร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ OIE , FAO จัดประชุมแลกเปลี่ยนข้อมูลการเฝ้าระวังและป้องกันโรคฯ 

2) มาตรการการป้องกันโรค มีการประกาศระงับการนำเข้าสุกรและผลิตภัณฑ์จากสุกรจากประเทศที่มีการระบาดของโรค บูรณาการการทำงานร่วมกันทุกภาคส่วนในป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำสุกร ผลิตภัณฑ์สุกรเข้ามาในประเทศ 3) มาตรการการเฝ้าระวังโรค การจัดทำแผนที่ความเสี่ยง (Risk Map) ในการเฝ้าระวังโรค ASF ในสุกร  จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ X-Ray เคาะประตูบ้าน เฝ้าระวังทางอาการ ขึ้นทะเบียนและประเมินความเสี่ยงด้วยแอพลิเคชั่น e-Smart+  พร้อมให้คำแนะนำความรู้เรื่องโรคและการป้องกัน 4) มาตรการลดความเสี่ยงเพื่อป้องกันโรค เกษตรกรหรือ เครือข่ายเฝ้าระวัง พบสุกรป่วย/ตายผิดปกติ หรือเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นโรคระบาด ให้แจ้งกรมปสุสัตว์ได้ตลอด 24 ชม.            

 5) มาตรการการสื่อสารความเสี่ยงและประชาสัมพันธ์ โดยสร้างการรับรู้แก่เกษตรกรและบุคคลทั่วไป ผ่านการใช้สื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ และ 6) ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน โดยภาคเอกชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการ ร่วมจัดทำแผนเตรียมความพร้อมเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (Contigency Plan จัดทำโรงพ่นยาฆ่าเชื้อทำลายเชื้อโรคที่ด่านชายแดนที่สำคัญ ร่วมสนับสนุนเครื่องพ่นยาฆ่าเชื้อ และยาฆ่าเชื้อทำลายเชื้อโรค เข้มงวดในการส่งออกสุกร ลดความเสี่ยงจากการส่งออกสุกร โดยรถขนส่งสุกรมีชีวิตที่ใช้ภายในประเทศห้ามไม่ให้ข้ามไปประเทศเพื่อนบ้านที่มีการระบาดของโรค ASF ในสุกร

 ในส่วนของ โครงการ Sandbox ปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ ได้กำหนดพื้นที่นำร่อง “Pig Sandbox” จังหวัดราชบุรี เป็นโครงการต้นแบบการเลี้ยงสุกร เพื่อส่งเสริม ฟื้นฟูการผลิตสุกร การควบคุมป้องกันการเกิดโรคอหิวาต์แอฟริการในสุกร (ASF) และโรคปากและเท้าเปื่อย (FMD) ยกระดับการจัดการฟาร์ม ภายใต้มาตรการ 3S คือ SCAN พื้นที่ SCREEN ความเหมาะสม และ SUPPORT การเลี้ยงดู การตลาดและแหล่งทุน ทั้งนี้ ประชาชนที่ต้องการแจ้งเบาะแส หรือสอบถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่หรือ สายด่วนกรมปศุสัตว์ 063 – 225 – 6888 ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง  รวมทั้งผ่าน www.dld.go.th หรือแอปพลิเคชัน DLD 4.0