ปตท. ผงาดสู่ดัชนีความยั่งยืน ดาวโจนส์ต่อเนื่องปีที่ 8

  • สะท้อนศักยภาพการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
  • ครอบคลุมมิติเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อม
  • สร้างคุณค่าเพิ่มแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่มอย่างสมดุล

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การวางแผนและตั้งเป้าหมายกลยุทธ์ระยะยาวปตท.นั้นได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนเน้นหลัก3P คือการทำธุรกิจควบคู่กับการดูแลชุมชนและสังคมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและเป็นฐานความมั่นคงแก่ภาคเศรษฐกิจและสังคมเติบโตอย่างแข็งแรงและยั่งยืน ภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดีเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ก้าวข้ามความท้าทายใต้สภาวการณ์ที่เปลี่ยนอย่างรวดเร็วทั้งด้านเทคโนโลยีรูปแบบการใช้พลังงานวิถีชีวิตของสังคมและความคาดหวังจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดจนเพื่อนำพาองค์กรสู่ความภาคภูมิใจและเป็นสมบัติอันล้ำค่าของประเทศ

  “นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่ในปีนี้ปตท. ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ประจำปี2562 (Dow Jones Sustainability Indices หรือDJSI) ต่อเนื่องเป็นปีที่8 ในกลุ่มดัชนีโลก(World Index) และดัชนีตลาดเกิดใหม่(Emerging Market Index) นำมาซึ่งความภาคภูมิใจสู่องค์กรและประเทศไทยที่ได้รับการยอมรับในเวทีระดับโลกสะท้อนให้เห็นถึงถึงการบริหารองค์กรที่สามารถเทียบเคียงกับบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมเดียวกันทั่วโลก” 

นายชาญศิลป์ กล่าวต่อว่า บริษัทในกลุ่มปตท. ประกอบด้วยบริษัทปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียมจำกัด(มหาชน) บริษัทไทยออยล์จำกัด(มหาชน) บริษัทไออาร์พีซีจำกัด(มหาชน) และบริษัทพีทีทีโกลบอลเคมิคอลจำกัด(มหาชน) ยังได้ผ่านการประเมินเป็นสมาชิกDJSI ต่อเนื่องครบทุกบริษัทโดยปตท.สผ. ได้คะแนนสูงสุดเป็นIndustry Leader ในกลุ่มOil & Gas Upstream & Integrated (OGX) ไทยออยล์ได้คะแนนสูงสุดเป็นIndustry Leader ในกลุ่มOil & Gas Refining & Marketing (OGR) และจีซีได้คะแนนสูงสุดเป็นIndustry Leader ในกลุ่มChemicals (CHM) อีกด้วย

ทั้งนี้  DJSI จัดขึ้นด้วยความร่วมมือของS&P Dow Jones และSAM เป็นดัชนีการประเมินการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทชั้นนำระดับโลกในแต่ละกลุ่มธุรกิจรวมถึงความสามารถในการเป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืนอีกทั้งเป็นเกณฑ์อ้างอิงพิจารณาการลงทุนเพื่อสร้างความมั่นใจว่าบริษัทที่ได้รับการจัดอันดับเป็นสมาชิกจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีและยั่งยืนให้แก่ผู้ลงทุน  นำไปสู่การส่งเสริมเศรษฐกิจและประเทศสู่การเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน