ปฏิรูปการศึกษาตามแนวชีวิตวิถีใหม่ “ดร.ณหทัย” แนะสูตรสำเร็จห้องเรียนออนไลน์

  • แชร์ความรู้เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบการศึกษาของประเทศ
  • ขออาสาแบ่งปันความรู้ให้โรงเรียนที่มีปัญหาขาดแคลนบุคลากรครูในช่วงวิกฤต
  • ตั้งแต่ระดับอ.1-ม.6 ในระบบ School to School รูปแบบออนไลน์ 8 วิชาสามัญ
  • เป็นไปตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการกำหนด

ร่ำหวอดอยู่ในระบบการเรียนการสอนมาตลอด 30 – 40 ปีนับตั้งแต่รุ่นพ่อแม่มาจนถึงรุ่นของตนเอง

จิตวิญญาณของดร.ณหทัย ทิวไผ่งาม ผู้อำนวยการโรงเรียนทิวไผ่งาม จึงเต็มไปด้วยความคิดที่ต้องการจะทำให้ระบบการศึกษาของชาติสมบูรณ์ในแบบที่นานาอารยะประเทศทำกัน

เธอจึงออกจะแปลกแยกในหมู่นักการศึกษาด้วยกันและจิตวิญญาณของการเป็นนักปฏิรูประบบการศึกษาที่เธอเช่ือมั่นเสมอว่าเป็นรากฐานของการลดความเหลื่อมล้ำตลอดจนถึงพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศชาติ

โรงเรียนทิวไผ่งามถือเป็นโรงเรียนเอกชนรุ่นแรกที่นำระบบการเรียนการสอนในแบบ 2 ภาษา (Bilingual) เข้ามาให้การศึกษาแก่นักเรียนของตนที่รับตั้งแต่ชั้นอนุบาลไปจนถึงระดับมัธยมศึกษาปีที่

ดร.ณหทัย เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ คือ ก่อนจะมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เธอ และสามี ได้ร่วมกันก่อ ตั้ง Canadian Thailand ในปี 2557 จนถึงปัจจุบัน โดยใช้โรงเรียนทิวไผ่งามเป็นที่ตั้ง และทำงานร่วมกับ Braincloud (เบรนคลาวด์)  แพลตฟอร์มการเรียนการสอนภาษาอังกฤษที่เธอเป็นผู้นำเข้ามาจากประเทศแคนาดา แต่ปรับเปลี่ยนให้สามารถใช้กับหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการไทยได้ เพื่อทำให้เด็กๆและเยาวชนของชาติ สามารถมีส่วนร่วม และเรียนกับเจ้าของภาษาในแบบเรียลไทม์ได้ง่ายขึ้น 

Braincloud เป็นสถาบัน และองค์กรการศึกษา ซึ่งได้พัฒนาระบบพื้นฐานด้านเทคโนโลยีทันสมัย และพื้นที่การเรียนที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเร่ง และส่งเสริมการเพิ่มพูนทักษะด้านภาษา โดยเฉพาะภาษาอัง กฤษ ซึ่งเป็นจุดเร่ิมต้นมาจากการที่ ดร.ณหทัย และสามี (นายแทน : ธันธเนศสมบูรณ์ทรัพย์) ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของภาษาอังกฤษที่มีต่อเด็กไทย 

ในขณะที่ทั้งสองมีความเชี่ยวชาญที่สามารถนำมาผสมผสานกันได้ระหว่างความเชี่ยวชาญด้านการเรียนการสอนกับความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีซึ่งสามารถนำมาใช้เพื่อประโยชน์ในการวางรากฐานทางการศึกษาของประเทศชาติในอนาคตได้ที่สำคัญคือมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการสอนภาษาอังกฤษมากว่า 10  ปีแล้ว

 One Tablet Per Child

“เราเคยได้รับมอบหมายให้ทำเรื่องของ  One Tablet Per Child จากรัฐบาลอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ครั้งนั้นทำให้ต้องคิดถึงเน้ือหาสาระ (Content) ที่จะนำไปสอน และใช้เทคโนโลยีของเบรนแชร์ลิ่ง คือ การสอนภาษาอังกฤษผ่านห้องเรียนปกติ เพื่อถ่ายทอดทางออนไลน์ไปยังโรงเรียนอื่นๆ ที่เข้าร่วมกับเรา ในเน้ือหาเดียวกันแบบเรียลไทม์ จากโรงเรียนทิวไผ่งาม ไปยังโรงเรียนเอกชน รวมถึงโรงเรียนรัฐบาลที่อยู่ห่างไกลความเจริญในจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส จำนวนกว่า 30 โรงเรียน…

ในระบบนี้ เรามีเด็กที่เข้าเรียนภาษาอังกฤษผ่านระบบออนไลน์นี้แล้วมากกว่า 6,000 รายด้วยกัน” 

ดร.ณหทัยอรรถาธิบายต่อว่าเบรนคลาวด์ถือเป็นแพลมฟอร์มการเรียนรู้ที่เป็นมากกว่าแพลตฟอร์มปกติเปรียบเสมือนการนำโรงเรียนมาจำลองในรูปแบบออนไลน์เป็นระบบที่ทำขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ครูที่จะสอนผ่านออนไลน์ได้มีเทคโนโลยีที่สามารถตอบโจทย์การสอนได้ในทุกรูปแบบโดยมีการจัดตารางสอนการจัดตารางผู้สอนรวมถึงมีระบบประเมินผลทดสอบหลังการเรียนซึ่งมีประสิทธิภาพเทียบเท่าการเรียนในรูปแบบปกติ

สำหรับเบรนคลาวด์ในปัจจุบันมีครูสอนภาษาอังกฤษจากประเทศแคนนาดาที่มีใบรับรองการสอนผ่านระบบออนไลน์หรือ Canadian  Online Teaching Certificate กว่า 200 คนส่วนในไทยมีครูสอนภาษาอังกฤษที่ได้ใบรับรองจากโรงเรียนทิวไผ่งามและเบรนคลาวด์มากกว่า 13 คนที่พร้อมจะดำเนินการสอนผ่านระบบออนไลน์

ทิวไผ่งามเสนอตัวช่วย


อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ซึ่งเป็นผู้จัดระบบการเรียนการสอนให้กับโรงเรียนเอกชนทั่วประเทศ  โดยกระทรวงศึกษาธิการได้ ให้แต่ละโรงเรียนหาวิธีเปิดการเรียนการสอน ก่อนจะเริ่มเปิดภาคเรียน 2563 ในเดือนก.ค.นี้  

ดร.ณหทัยในฐานะผู้บริหารโรงเรียนทิวไผ่งามรุ่นที่จึงอาสาเป็นโรงเรียนที่จะช่วยแบ่งปันความรู้ท่ีมีอยู่สู่โรงเรียนอื่นที่ประสบปัญหาการขาดแคลนครูในวิชาต่างๆเป็นระยะเวลา 1 ปี

โดยการเรียนการสอนจะมีตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 1 ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เป็นการสอนผ่านระบบออนไลน์ใน 8 วิชาสามัญ เช่น วิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ เป็นต้น 

การเรียนการสอนเหล่านี้จะมอบให้กับโรงเรียนทุกแห่งทั่วประเทศที่สนใจโดยโรงเรียนทิวไผ่งามได้เริ่มทดลองสอน 8 วิชาสามัญในภาคเรียนปีการศึกษา 2563 แล้วซึ่งการเรียนการสอนรูปแบบนี้เรียกว่า “School to School” หรือการจำลองการเรียนในห้องเรียนมาเป็นรูปแบบโรงเรียนออนไลน์

ลดต้นทุนจ้างครูสอนภาษา

สำหรับหลักสูตรการสอนในแต่ละวิชานั้น เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และกระทรวงศึกษาธิการกำหนดไว้ทุกอย่าง เพียงแต่นำมาสอนในรูปแบบใหม่ภายใต้ระบบออนไลน์เท่านั้น โดยการออกแบบการเรียนการสอน จะมาจากครูในโรงเรียนทิวไผงามที่มีประสบการณ์มาหลายสิบปี 

ที่ผ่านมาบางโรงเรียนขาดแคลนครูสอนวิชาคณิตศาสตร์ฟิสิกส์เคมีชีวะซึ่งถ้าหากโรงเรียนเหล่านี้ตัดสินใจใช้หลักสูตรของทิวไผ่งามผ่านระบบเบรนคลาวด์จะตัดปัญหาเรื่องขาดแคลนครูประจำวิชาได้เลย” 

ทั้งนี้ยังรวมถึงในกรณีที่ครูไม่สามารถมาสอนได้ เนื่องจากไม่สบายด้วย โดยเฉพาะวิชาภาษาอังกฤษ ที่บางโรงเรียนต้องแบกรับต้นทุนจำนวนมาก เพราะการจ้างครูต่างชาติหนึ่งคนมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 70,000-80,000 บาท 

อาทิการออกวีซ่า (VISA) เป็นต้นหากมาใช้หลักสูตรของทิวไผ่งามนอกจากจะสามารถเลือกครูต่างชาติและเวลาที่สอนได้เองแล้วยังจะลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้อีกมากด้วย

อย่างไรก็ตาม โรงเรียนที่ตัดสินใจใช้หลักสูตรของทิวไผ่งามผ่านระบบเบรนคลาวด์ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ้ายใดๆ ทั้งสิ้น ยกเว้นหากต้องการเพิ่มวิชาที่เรียน หรือเนื้อหาในหลักสูตร  

School to School

การที่โรงเรียนทิวไผ่งามเปิดแชร์ความรู้เพื่อพัฒนาการศึกษาไทย  จะช่วยลดต้นทุนการมาร่วมกับเบรนคลาวนด์ เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่โรงเรียนต้องไปลำบากจัดการเอง ในเรื่องของการทำวีซ่าให้ครูผู้สอน รวมถึงการควบคุมเรื่องคุณภาพครู การต้องเทรนครูให้เป็น Professional  (มืออาชีพ) โรงเรียนที่เข้ามาร่วมกับทิวไผ่งามสามารถตัดปัญหาเหล่านี้ไปได้เลย

“แพลตฟอร์มของเบรนคลาวด์จะสามารถรองรับได้ทั้งระบบ iOS และแอนดรอยด์ (Android) และยังมีความปลอดภัยมากกว่าโปรแกรมซูม (Zoom) ที่เป็นเพียงการประชุมผ่านไลฟ์วีดิโอ (meeting platform) เท่านั้นด้วยเนื่องจากระบบของเบรนคลาวน์เป็นระบบที่เบรนคลาวด์ได้พัฒนาขึ้นมาเองจึงมีความปลอดภัยในการปกป้องด้านข้อมูลมากกว่า” 

นอกจากนี้ ในโปรแกรม School to School จะมีการจัดตารางเรียนให้กับนักเรียนว่า ภายใน 1 วัน จะมีเรียนกี่วิชา เหมือนห้องเรียนจริง มีชื่อคุณครูผู้สอน จำนวนชั่วโมงที่เรียน  และเมื่อถึงเวลาเรียน เด็กนักเรียนสามารถเข้าไปในห้องเพื่อเรียนรู้ได้ รวมถึงมีแบบฝึกหัดท้ายคาบ เพื่อให้นักเรียนทบทวนความรู้ ซึ่งจะถูกจัดอย่างเป็นระบบ

สำหรับหน้าที่ของ “คุณครู” ในการสอนออนไลน์ สิ่งที่ต้องรับผิดชอบไม่แตกต่างจากการสอนแบบปกติ คือ ต้องกำหนดแผนการสอนของตัวเองในวิชาที่ตนเองรับผิดชอบ และอัพโหลดใส่แพลตฟอร์มของเบรนคลาวนด์  รวมถึงแบบฝึกหัดที่จะใช้ในการสอนด้วย ซึ่งจะต้องเตรียมการสอนล่วงหน้าของทั้งเทอมการศึกษาไว้ 20 สัปดาห์ หรือราว 1 เทอมการศึกษา ซึ่งในขั้นตอนนี้สามารถช่วยลดเอกสารที่ต้องใช้ประกอบการเรียนแบบปกติ รวมทั้งทำให้คุณครูสามา รถสอนนักเรียนได้อย่างเต็มที่

 English Everywhere

“จริงๆ ในช่วงเวลาที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ส่ังให้พวกเราต้องมีระยะห่าง physical distancing นั้น โรงเรียนสามารถใช้ระบบออนไลน์บนแพลตฟอร์มนี้ ทำการเรียนการสอนได้โดยไม่ต้องรอระยะเวลาที่รัฐบาลกำหนดเปิดโรงเรียนในวันที่ 1 ก.ค. โดยวิธีการนี้จะช่วยให้เด็ก เรียนทันตามกำหนดการเรียนการสอนเดิมได้ โดยไม่ต้องถมวิชาเรียนไปในเวลาที่จำกัดด้วย”

ดร.ณหทัยกล่าวว่าเธออยากเสนอให้รัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการนำเรื่องนี้ไปพิจารณาเพราะเป็นประโยชน์อย่างแท้จริงกับเด็กนักเรียนและเยาวชนไทยโดยเฉพาะในเรื่องของภาษาอังกฤษที่เรียนผ่านออนไลน์โดยดร. ณหทัยเรียกระบบนี้ง่ายๆสั้นๆและได้ผลดีกว่าว่า English Everywhere หรือ English Anywhere อยู่ที่ไหนก็สามารถจะเรียนภาษาอังกฤษได้

ที่ดีที่สุดก็คือภาษาอังกฤษคือจุดเร่ิมต้นที่จะนำเด็กไทยออกไปเรียนรู้ในโลกกว้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม คุณครูที่จะสอนผ่านออนไลน์ได้ จะถูกฝึกอบรมการใช้โปรแกรม และอธิบายเนื้อหาที่จะใช้สำหรับการเรียนการสอนให้กับคณะกรรมการของโรงเรียนตรวจสอบ ซึ่งเมื่อผ่านแล้ว จึงจะสามารถนำเนื้อหาการเรียนการสอนนั้น มาสอนนักเรียนผ่านระบบออนไลน์ได้ 

ข้อดีของการเรียนออนไลน์นี้คุณครูหลายคนมองว่าทำให้มีเวลาสอนเพิ่มขึ้นเพราะไม่ต้องเสียเวลาเช็คชื่อเด็กในนักเรียนในห้องเรียนทีละคนแบบเก่าที่ทำกันมาโดยตลอดซึ่งเบียดเบียนเวลาสอนในคาบเรียนโดยระบบจะบันทึกเวลาที่เด็กนักเรียนล็อคอิน (Login) เข้าสู่ระบบการเรียนจนกระทั่งล็อคเอ้าท์ (Logout) ออกจากระบบทำให้คุณครูสามารถตรวจเช็คข้อมูลได้ง่ายและข้อมูลชุดนี้ยังมีความแม่นยำสูง

แต่การสอนผ่านออนไลน์นั้น มีอุปสรรคมากกว่าการสอนในห้องเรียน คุณครูจะต้องมีเทคนิค วิธีการที่จะดึงความสนใจของเด็ก จะต้องมีลูกเล่น เพื่อให้ผู้เรียนตอบโต้ ไม่ใช่การสอนทางเดียว จะต้องทำให้เด็กสนใจเรื่องที่เรียนอยู่ตลอด โดยเวลาเรียน โรงรียนให้นักเรียน เรียนเพียงคาบละ 50 นาที และจะมีเรียนเพียงครึ่งวันเท่านั้น  ส่วนช่วงบ่ายจะให้เด็กกลับไปทบทวนบทเรียน และทำฝึกหัดในระบบ 

เรียนผ่านออนไลน์ที่ไหนก็ได้

วิธีการเรียนการสอนเช่นนี้ จะทำให้เด็กไม่ต้องหมกมุ่นอยู่กับคอมพิวเตอร์ และที่ดีก็คือ ผู้ปกครองที่บ้านสามารถจะร่วมอยู่ในการเรียนการสอนของเด็กๆ ได้ในเวลาที่เขาเข้าเรียนตามโปรแกรมที่บ้าน

อย่างไรก็ตามคุณครูแต่ละคนจะมีเทคนิคเฉพาะของตนเองซึ่งเกิดจากประสบการณ์การสอนมาอย่างยาวนานในโรงเรียนจึงมีวิธีที่จะดึงความสนใจนักเรียนให้ตั้งใจกับการเรียนตลอดทั้งคาบเรียนได้โดยเฉพาะเด็กเล็กอาทิระดับชั้นอนุบาลคุณครูอาจจะต้องหาสื่อการสอนเพิ่มเติมเช่นมีอุปกรณ์มาจูงใจให้เด็กสนใจหรือการเรียกตอบคำถามเป็นระยะเพื่อตรวจสอบหรือรีเช็ค (recheck) ว่าเด็กเข้าใจเนื้อหาหรือไม่

ส่วนในเด็กระดับมัธยมศึกษา ปัญหาที่พบมากสุด คือ การหลับระหว่างคาบเรียน ซึ่งในส่วนนี้คุณครูที่สอนอยู่ สามารถบังคับให้กล้องของนักเรียนเปิดขึ้นได้ เพื่อเช็คว่า ระหว่างการเรียน นักเรียนทำอะไรอยู่ ตั้งใจเรียนหรือไม่ ส่วนถ้าเด็กนักเรียนคนใดไม่มีกล้อง จะใช้วิธีทักในกล่องข้อความรวม

และอีกโปรแกรมที่โรงเรียนทิวไผ่งามร่วมทำกับเบรนคลาวนด์ คือ  English Anywhere ซึ่งมาในคอนเซปต์ “เรียนภาษาอังกฤษที่ไหนก็ได้”  โดยเบรนคลาวด์ จะเปิดโอกาสให้นักเรียน และครอบครัว รวมถึงคนที่อยากจะเรียนภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษาโดยตรง สามารถเรียนผ่านออนไลน์ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง 

โดยหนึ่งห้องเรียนจะจำกัดจำนวนนักเรียนห้องละไม่เกิน 10 คนและจะคิดอัตราค่าบริการ 200 บาท /คน/ครั้งเวลาเรียนก็จะประมาณ 1 ชั่วโมง

“สำหรับเนื้อหาจะเน้นการฟัง พูด อ่าน และเขียน จากเจ้าของภาษาอังกฤษในแบบเรียลไทม์ โดยเราจะเป็นผู้เลือกเนื้อหาได้เอง ซึ่งจะถูกแยกเป็นหมวดหมู่ไว้ และเบรนคลาวนด์จะจัดครูสอนภาษาอังกฤษที่เป็นครูที่แคนาดาให้ด้วย”

   *************

นี่เป็นข้อเสนอของ ดร.ณหทัยทิวไผ่งามกับการใช้ประสบการณ์ที่สั่งสมมาเพื่อเป้าหมายเติมเต็มให้ระบบการศึกษาของชาติให้มีความสมบูรณ์แบบตอบโจทย์ในยุคชีวิตวิถีใหม่