“บี.กริม” เดินหน้าขยายฐานลูกค้าต่อเนื่อง สวนทางภาวะเศรษฐกิจผันผวน พิษโควิด-19 เล่นงาน

  • ทยอยเซ็นสัญญาจำหน่ายไฟฟ้าให้ลูกค้าใหม่เพิ่มอีก 31 เมกะวัตต์
  • เผยเฝ้าติดตามการใช้ไฟของลูกค้าใกล้ชิด พบความต้องการไม่ลด
  • ชี้มีโอกาสขยายเพิ่มไปยังกลุ่ม ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์-ปิโตรเคมี

นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า การประเมินผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกและการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น บริษัทได้ติดตามสถานการณ์และปริมาณการใช้ไฟฟ้าของลูกค้าอย่างใกล้ชิด พบว่ายอดใช้ไฟฟ้าจากลูกค้าอุตสาหกรรมในเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา อยู่ในระดับคงที่เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ลูกค้าบางรายจะมีปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่ลดลงบ้างตามภาวะเศรษฐกิจ แต่ก็มีกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มบรรจุภัณฑ์ที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นถึง 20% จาก บมจ. AJ Plast และ บริษัท Universal Polybag กลุ่มผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศ และเครื่องใช้ในบ้าน ที่เพิ่มขึ้น 9% จากการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของ บริษัท Toshiba Consumer Products (Thailand) และ บริษัท Toshiba Carrier (Thailand) และยังมีลูกค้ารายใหม่ในกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ บริษัท Tenma (Thailand) ซึ่งผลักดันให้หน่วยขายไฟฟ้าในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นถึง 32% เป็นต้น 

ปรียนาถ สุนทรวาทะ

นอกจากนี้ บี.กริม ยังเดินหน้าขยายฐานธุรกิจทยอยเซ็นสัญญากับลูกค้ารายใหม่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเซ็นสัญญาเพิ่มอีก 8 เมกะวัตต์ รวมมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 31 เมกะวัตต์ โดยมีกำหนดการทยอยเข้าระบบในปีนี้ ยิ่งไปกว่านั้นจากจำนวนโรงงานทั้งหมดมากกว่า 1,500 ราย ในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ที่โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่เปิดดำเนินการแล้วกว่า 17 โครงการของ บี.กริม ตั้งอยู่นั้น ปัจจุบันมี 130 บริษัทที่เป็นลูกค้าของบริษัท ซึ่งยังมีโอกาสในการขยายฐานลูกค้าไปยังธุรกิจที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพอีกมาก อาทิเช่น ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ ปิโตรเคมี อุตสาหกรรมเหล็ก เป็นต้น ซึ่งบริษัทมีการสำรวจความต้องการในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ

อย่างไรก็ตามในส่วนสถานการณ์ภัยแล้งนั้น บริษัทมีมาตรการบริหารจัดการน้ำเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากการใช้น้ำและอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำตามแนวทางความยั่งยืนมาโดยตลอด โดยน้ำส่วนใหญ่ที่ถูกนำมาใช้ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมมาจากน้ำที่ผ่านกระบวนการ recycle หรือจากการบำบัดน้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม และได้มีการเพิ่มขั้นตอนการนำน้ำจากกระบวนการผลิตกลับมาใช้ใหม่ เพื่อช่วยประหยัดทรัพยากรน้ำอีกด้วย 

“บริษัทมีความมั่นใจว่าจะสามารถผลิตไฟฟ้าและไอน้ำที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้โดยไม่สะดุดตลอดทั้งปี” นางปรียนาถ กล่าว