“บี.กริม” ผงาดอาเซียน ผุดโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์เวียดนาม มุ่งสู่เป้าซื้อขายไฟ 5,000 เมกะวัตต์ ในปี 2565

  • บี.กริม เพาเวอร์ รุกจัดเต็ม เปิดโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ใหญ่สุดในอาเซียน
  • ปักหมุดเวียดนาม ผงาดผู้นำระดับภูมิภาค
  • เปิดกลยุทธ์มุ่งสู่เป้าหมายสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 5,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2565

นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม เปิดเผยว่า กลุ่ม บี.กริม ได้ร่วมบุกเบิกด้านโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคมากว่า 141 ปี โดย บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เป็นบริษัทในเครือที่ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมของไทยมากว่า 20 ปี รวมไปถึงการขยายธุรกิจไปสู่ระดับภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ล่าสุดบริษัทฯได้รุกขยายแผนธุรกิจเพิ่ม โดยเปิดโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 420 เมกะวัตต์ ที่ประเทศเวียดนาม โดยเหตุที่เลือกลงทุนที่เวียดนาม เพราะถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพการลงทุนสูง ด้วยการเติบโตของเศรษฐกิจ จีดีพีขยายตัวกว่า 6-7% ต่อปี และมีการสนับสนุนด้านพลังงานทดแทนอย่างจริงจัง

“การเปิดโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ DAU TIENG 1 (โซว เตียน 1) หรือ DT 1 และ DAU TIENG 2 หรือ DT 2 ที่เวียดนามซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียนนั้น ถือเป็นก้าวสำคัญของการเป็นผู้นำในระดับภูมิภาค ซึ่งจะนำไปสู่การขยายธุรกิจในระดับภูมิภาคอย่างต่อเนื่องของบริษัทฯต่อไป”

นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินโครงการ DAU TIENG 1 และ DAU TIENG 2 ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) จำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ Electricity of Vietnam (EVN) แล้วเมื่อวันที่ 3 และ 13 มิ.ย.2562 ตามลำดับ ด้วยสัญญาการรับซื้อไฟฟ้าในอัตรา 9.35 เซ็นดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง สร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงเป็นระยะเวลา 20 ปี

นอกเหนือจากนี้ เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2562 บริษัทฯยังได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Phu Yen TTP ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 257 เมกะวัตต์ ทำให้ บี.กริม เพาเวอร์ มีกำลังการผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์รวมกว่า 677 เมกะวัตต์ สร้างรายได้ให้บริษัทแล้ว 181 ล้านบาท ในเดือนมิ.ย.2562 ทั้งนี้แม้จะเพิ่งเปิดดำเนินการในระหว่างเดือน ซึ่งส่งผลให้กำลังการผลิตที่เปิดดำเนินการแล้วของ บี.กริม เพาเวอร์ ณ ปัจจุบัน เติบโตกว่า 40% จากช่วงต้นปี โดยมีสัดส่วนกำลังการผลิตจากพลังงานทดแทนเพิ่มเป็น 30% จากเดิม 8%

“บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม ขนาดกำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ ในประเทศไทย ซึ่งจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในช่วงเดือนธ.ค.นี้ ซึ่งก็จะส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2562 บริษัทจะมีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์รวมทั้งสิ้น 46 โครงการ โดยเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 17 โครงการ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 24 โครงการ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ 3 โครงการ โครงการขยะอุตสาหกรรม 1 โครงการ และ โรงไฟฟ้าพลังงานดีเซล 1 โครงการ มีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 2,896 เมกะวัตต์ และส่งผลให้รายได้ปีนี้เติบโตตามเป้าหมาย 15-20%”

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังอยู่ระหว่างพิจารณาขยายการลงทุนเพิ่มเติมในโครงการโรงไฟฟ้าในอีกหลายประเทศทั้งใน เวียดนาม เกาหลีใต้ กัมพูชา ฟิลิปปินส์ กัมพูชา รวมถึงระบบการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายการเติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืนไปสู่เป้าหมายการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 5,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2565