บีโอไอเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างประเทศในไทยประจำปี 2562 นักลงทุนต่างชาติมั่นใจ ศักยภาพประเทศไทย 97.3 %

  • เดินหน้าลงทุนไทย ชูปัจจัยสำคัญมาจากมีวัตถุดิบเพียงพอ
  • พึงพอใจโครงสร้างพื้นฐานของไทย
  • ขอให้เพ่ิมสิทธิประโยชน์เพ่ิมเติม



นางสาวบงกช อนุโรจน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติในประเทศไทย ประจำปี นี้ โดยสำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง 600 บริษัท พบว่าผู้ตอบแบบสำรวจ 97.3 %มีแผนการลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง ซ่ึง65.5% ยังคงรักษาระดับการลงทุนในไทย ขณะที่31.83 %มีแผนจะขยายการลงทุนเพิ่มเติม สำหรับปัจจัยหลักที่ทำให้นักลงทุนตัดสินใจขยาย หรือรักษาระดับการลงทุนในประเทศไทยนั้น พบว่าสามอันดับแรก คือ มีวัตถุดิบและชิ้นส่วนที่เพียงพอ 55% ตามด้วยสองปัจจัย คือ มีสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุน และมีซัพพลายเออร์เพียงพอ ที่ 51 %


“นักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่มองว่า สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันอยู่ในภาวะทรงตัว จากปีก่อนพิจารณาได้จากปริมาณยอดขายในช่วงที่ผ่านมายังมีเท่าเดิมหรือลดลงเล็กน้อย และคาดว่าจะยังทรงตัวต่อไปในอนาคต นักลงทุนต่างชาติโดยรวมมีความพึงพอใจต่อโครงสร้างพื้นฐานของไทยและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในประเทศที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยทำให้นักลงทุนที่ทำธุรกิจอยู่แล้วภายในประเทศมีแผนจะขยายการลงทุน”


ขณะที่ การสำรวจความพึงพอใจต่อการบริการของบีโอไอ พบว่านักลงทุนต่างชาติมีความพึงพอใจ โดยเฉพาะการปรับใช้ระบบออนไลน์ (e-Services) มีประโยชน์เป็นอย่างมาก โดยนักลงทุนสามารถยื่นแบบฟอร์มขอรับการส่งเสริมการลงทุนออนไลน์ได้ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาและเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีความพึงพอใจเพิ่มขึ้นจากบริการที่ได้รับจากศูนย์ประสานการบริการด้านการลงทุน (OSOS) และบริการที่ได้รับจากศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน เมื่อเทียบกับผลสำรวจของปีที่ผ่านมา


“ในการสำรวจเชิงลึกในปัจจัยด้านการลงทุน พบว่า นอกจากปัจจัยด้านโครงสร้างพื้นฐานที่มีการพัฒนาเพิ่มขึ้นแล้ว นักลงทุนต่างชาติมีความพึงพอใจต่อสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุน และแรงงานที่มีคุณภาพ ขณะที่ ในด้านปัจจัยอื่นๆ นักลงทุนเห็นว่าหน่วยงานภาครัฐมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีการดำเนินงาน ที่โปร่งใส อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางส่วนต้องการให้บีโอไอพิจารณาให้สิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นแก่อุตสาหกรรมอื่นๆ ที่นอกเหนือจากอุตสาหกรรมที่เน้นการใช้นวัตกรรม เพื่อเพิ่มศักยภาพของประเทศให้ครอบคลุมในหลากหลายด้าน “