บีโอไอหนุนเอกชนลงทุนระบบอัตโนมัติ 1.1 หมื่นล้านบาท

  • รับเศรษฐกิจฟื้นหลังโควิด-19คลี่คลาย
  • รับสิทธิยกเว้นภาษีนำเข้าเครื่องจักร
  • แนะเอสเอ็มอีไทยเร่งใช้สิทธิด่วน

นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เปิดเผยว่า 6 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-มิ.ย.) มีโครงการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตรวม 88 โครงการ เงินลงทุนรวม 11,020 ล้านบาท แบ่งเป็นมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต เพื่อการประหยัดพลังงาน 67 โครงการ เงินลงทุน 9,260 ล้านบาท มาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตเพื่อการปรับเปลี่ยนเครื่องจักร 21 โครงการ เงินลงทุน 1,760 ล้านบาท  

สำหรับมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต เพื่อการปรับเปลี่ยนเครื่องจักร โดยการนำระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์เข้ามาใช ้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต บีโอไอจะให้สิทธิประโยชน์ อาทิ ยกเว้นอากรนำเข้าเครื่องจักร ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี ในสัดส่วน 50% ของเงินลงทุน (ไม่รวมค่าที่ดินและเงินทุนหมุนเวียน)  

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรม การผลิตระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ ในประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ในกรณีที่โครงการเลือกใช้ ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ที่มีการเชื่อมโยง หรือสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิต ระบบอัตโนมัติในประเทศ ไม่น้อยกว่า 30% ของมูลค่าระบบอัตโนมัติที่มีการปรับเปลี่ยน จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี ในสัดส่วน 100% ของเงินลงทุน (ไม่รวมค่าที่ดินและเงินทุนหมุนเวียน)  

ขณะเดียวกัน บีโอไอ ยังมีมาตรการลงทุนเพื่อการประหยัดพลังงาน การลงทุนเพื่อการวิจัยพัฒนาและออกแบบทางวิศวกรรม การลงทุนเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมเกษตร ไปสู่มาตรฐานสากล และการลงทุนนำระบบดิจิทัลมาใช้ในกระบวนการผลิตด้วย โดยจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี ในสัดส่วน 50% ของเงินลงทุน (ไม่รวมค่าที่ดินและเงินทุนหมุนเวียน) เช่นเดียวกัน  

นายเฉลิมรัฐ สินบริสุทธิ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ศรีบริสุทธิ์ ฟอร์จจิ้ง เทคโนโลยี จำกัด ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ กล่าวว่าในช่วงสถานการณ์โควิดเป็นจังหวะที่ดีในการลงทุนปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยนำหุ่นยนต์มาใช้ในขั้นตอนการหยิบชิ้นงาน ช่วยเพิ่มความรวดเร็ว ลดต้นทุนในกระบวนการผลิต และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ประกอบกับมีมาตรการส่งเสริมจากบีโอไอ ทำให้บริษัทได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล จึงช่วยเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจของบริษัทในอนาคต