ศาลปกครองกลางพิพากษาคดีบีทีเอสฟ้องร้อง คณะกรรมการฯ ม.36 และ รฟม. กรณียกเลิกประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม บางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวิทวงศ์) ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขณะเดียวกันศาลก็ไม่ได้มีคำสั่งให้ชะลอการประกวดราคารอบใหม่ที่เริ่มไปแล้ว ด้าน รฟม.ยืนยันเตรียมยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วันทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (7 ก.ค.) ศาลปกครองกลางได้นัดอ่านคำพิพากคดีล้มประมูลรถไฟฟ้า สายสีล้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวิทวงศ์) ในครั้งแรก ซึ่ง บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพจำกัด(มหาชน)หรือบีทีเอสซี เป็นโจทย์ยื่นฟ้องการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)และคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา36 แห่งพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)แห่ง พ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ในการยกเลิกการประกวดราคารอบแรกตามมติของคณะกรรมการ ม.36 ครั้ง 1 /2564 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ที่ออกประกาศยกเลิกโดยผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม.
โดยเมื่อเริ่มอ่านคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ได้อ่านถึงคำฟ้องและคำโต้แย้งของทั้ง 2 ฝ่าย ตั้งแต่ในประเด็นว่าคณะกรรมการ ม.36 มีอำนาจ มีมติยกเลิกประกาศเชิญชวน และผู้ว่าฯ รฟม . มีอำนาจในการออกประกาศหรือไม่ ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการเป็นไปตาม พ.ร.บ. ร่วมทุน พ.ศ.2562 มาตรา 6 หรือไม่
รวมทั้งคำโต้แย้งของฝ่ายผู้ถูกฟ้องที่ระบุว่า จำเป็นต้องมีการยกเลิก และออกประกาศยกเลิกการเชิญชวน ประกวดราคา รถไฟฟ้าสายสีส้มในครั้งแรก เนื่องจากหากไม่มีประกาศยกเลิกออกมา และศาลปกครองยังไม่มีคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับการปรับเกณฑ์การประมูลในครั้งแรก ในขณะนั้น
เมื่อยังไม่มีการยกเลิกก็จะทำให้การเดินหน้าประกวดราคารอบใหม่ ไม่สามารถดำเนินการได้ ส่งผลให้โครงการประกวดราคารถไฟฟ้าสายสีส้ม ตะวันตก ล่าช้า กระทบกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก (ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย – มีนบุรี ) ที่ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วเกิดความล่าช้า โดยภาพรวมสองปีกระทบกับการเปิดให้บริการต้องเลื่อนจากปี 2567 ไปปี 2569 ซึ่งระหว่างความล่าช้านี้เมื่อโครงการสายสีส้มฝั่งตะวันออกก่อสร้างแล้วเสร็จจะมีต้นทุนในการดูแลรักษาระบบทั้งที่ยังไม่ได้เปิดให้บริการประมาณเดือนละ 41 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามศาลปกครองไม่ได้ให้น้ำหนักกับประเด็นนี้โดยเห็นว่าการดำเนินการสามารถไปเร่งรัดได้ แต่ให้น้ำหนักกับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 6 ตามพ.ร.บ. ร่วมทุนฯ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องเรื่องของความโปร่งใส การเป็นหุ้นส่วนที่ดีในโครงการร่วมทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน รวมถึงประโยชน์ของสาธารณะว่า ได้รับผลกระทบหรือไม่
ดังนั้นศาลจึงมีคำพิพากษาว่าการมีมติยกเลิกประกาศเชิญชวนรอบแรกและการออกประกาศไม่ชอบด้วยกฏหมาย ส่วนประเด็นที่ผู้ฟ้องขอให้มีการชะลอ การเดินหน้าประกวดราคารอบใหม่ ศาลปกครองไม่ได้มีคำสั่งให้ชะลอ รวมทั้งได้มีการหยิบยกประเด็นที่มีการยกเลิกในรอบแรก บริษัทที่ร่วมลงทุนกับบีทีเอสเป็นกิจการร่วมค้า ได้รับคืนเงินค่าซอง ไปแล้ว ทำให้เกิดข้อสงสัยว่ากระบวนการประกวดราคาครั้งใหม่นี้จะยังมีความสมบูรณ์เดินหน้าต่อไปได้หรือไม่
ด้านนายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี ซึ่งได้เดินทางเข้าร่วมรับฟังคำพิพากษาในวันนี้ ระบุว่าพอใจกับคำพิพากษาของศาลปกครองกลางที่ให้ความยุติธรรม และจะนำผลคำพิพากษาในวันนี้ไปหารือร่วมกับฝ่ายกฎหมาย โดยเห็นว่าเมื่อศาลมีคำพิพากษาว่าการยกเลิกการประกวดราคาในรอบแรก ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นในปัจจุบันนี้ยังต้องถือว่ากระบวนการประกวดราคาในรอบแรก และประกาศเชิญชวนยังมีผลอยู่ ส่วน คำถามว่า ศาลไม่ได้มีคำสั่งให้ชะลอการประกวดราคารอบใหม่นี้จะดำเนินการอย่างไรต่อ ก็จะเป็นประเด็นที่ต้องนำไปหารือกับฝ่ายกฎหมายต่อไป รวมทั้งบริษัทก็มีความพร้อมที่จะเดินหน้าการประกวดราคาในรอบแรกอยู่แล้ว
ส่วนประเด็นว่า รฟม. จะมีการอุทธรณ์คำพิพากษานี้หรือไม่นั้น คงต้องรอดู ฝ่าย รฟม. อีกครั้ง โดยคดีที่เกี่ยวกับการยกเลิกการประกวดราคารถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ยังมีเหลืออีกหนึ่งคดี คือ คดีที่มีการฟ้องดำเนินคดีอาญากับคณะกรรมการมาตราฯ 36 ซึ่งศาลได้นัดไต่สวน ในวันที่ 27 กันยายนที่จะถึงนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกระบวนการประกวดราคารอบใหม่ ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม บางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวิทวงศ์ รฟมฺ ได้ประกาศเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมคัดเลือกเป็นผู้ร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) และเปิดขายเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน (Request for Proposal Documents: RFP) ระหว่างวันที่ 27 พ.ค.-10 มิ.ย.65 ผลปรากฏว่า มีผู้ที่สนใจติดต่อขอซื้อเอกสารประกวดราคา ทั้งสิ้น 14 ราย มีการจัดประชุมชี้แจงการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา และมีกำหนดรับซองข้อสนอในวันที่ 27 กรกฎาคม และเปิดซองข้อเสนอ ในวันที่ 1 สิงหาคม 65
ด้านนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม. ยืนยันว่า รฟม. รฟม.จะยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าวต่อศาลปกครองภายใน 30 วัน แน่นอน หรือถ้ามีประเด็นกฎหมายเพิ่มเติม ก็สามารถขยายและเวลาในการอุทธรณ์ตามกฏหมายได้
ส่วนการประกวดราคารถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก รอบใหม่ ยืนยันว่ากระบวนการจะเดินหน้าต่อไป เพราะที่ผ่านมา คดีนี้มีการฟ้องมาแล้ว 2 ครั้ง ในศาลปกครอง ซึ่ง ในครั้งแรกศาลปกครองก็ได้มีคำสั่งยกในประเด็นที่ผู้ฟ้องขอให้ชะลอการประกวดราคารอบใหม่ รวมทั้งศาลปกครองสูงสุดก็ได้มีคำพิพากษายืนไปแล้ว จึงไม่มีเหตุผลใดที่จะมีการชะลอการประกวดราคาครั้งใหม่ ที่ได้เริ่มต้นกระบวนการไปแล้ว
ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวสั้นๆว่า เรื่องดังกล่าวต้องรอคำวินิจฉัยกลางอย่างเป็นทางการส่งมาก่อน ขณะนี้ไม่สามารถให้ความเห็นอะไรได้เนื่องจากยังไม่เห็นรายละเอียดดังกล่าว ส่วนกรณีที่ว่ากระทรวงคมนาคมจะดำเนินการอย่างไรต่อไปนั้น ในเรื่องนี้ ต้องดูในรายละเอียดให้รอบคอบก่อน