“บิ๊กตู่” ปัดเตรียมการ 3 ปี เพื่อทำ รัฐประหาร แนะใครคาใจกลับไป ย้อนฟังใหม่

  • “ประยุทธ์”ขอให้กลับย้อนฟังใหม่ว่าการเป็นผบ.ทบ.3ปีต้องเผชิญสถานการณ์ใดบ้าง
  • ทั้งความขัดแย้ง ความรุนแรง ไม่รู้จากพวกใดบ้าง
  • “ประวิตร” แจงแผนการจัดหายุทโธปกรณ์ที่จะใช้ในช่วง 20-30 ปี

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงหลังถูกนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย อภิปรายเรื่องงบประมาณของกระทรวงกลาโหมและเรื่องการท่องเที่ยว ด้วยการนำหนังสือที่ชื่อว่ากองทัพไทยกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ที่เขียนโดยพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งการอ่านหนังสือเล่มนี้ทำให้เข้าใจว่าเหตุพล.อ.ประยุทธ์จึงเกลียดนักการเมือง โดยระบุว่า ตนเองนั่งฟังมา 2 วันแล้ว ที่บอกว่าเตรียมการมา 3 ปี ขอให้กลับไปย้อนฟังใหม่หรือสอบถามลูกน้องตนเองก็ได้ โดยตนพูดว่าการเป็น ผบ.ทบ.มา 3 ปี ต้องเผชิญสถานการณ์ใดบ้าง ทั้งความขัดแย้ง สถานการณ์ความรุนแรง ก็ไม่รู้มาจากพวกใดบ้าง เพราะฉะนั้นตนได้เตรียมการจริง แต่เป็นการเตรียมการฝึกกำลังพลให้ความระมัดระวัง ปลอดภัย และจะดูแลประชาชนได้อย่างไร นั่นคือสิ่งที่ตนเตรียมการ และในเมื่อถึงวันนั้นก่อนเกษียณอายุราชการได้ 6 เดือน เกิดอะไรขึ้นในประเทศไทย

“คุณไม่ต้องมายิ้มเลย พวกนั่งอยู่ทางนี้ ยิ้มแบบไม่รู้สึกรู้สาอะไรทั้งสิ้น คนตาย คนเจ็บไปแล้วไม่รู้เท่าไหร่ เพราะฉะนั้นผมต้องตัดสินใจ และไม่ได้ตัดสินใจก่อนหน้า วันนั้นเท่านั้นเองที่คนของท่าน บางคนบางพวกบอกว่าก็ไม่ต้องอยู่ อยู่กันแบบนี้ ถ้าทหารไม่ออกมาทำงาน ก็ต้องอยู่กันแบบนี้ งบประมาณทำไม่ได้ก็ไม่ต้องทำ รับผิดชอบอะไรหรือเปล่า ตอบมาซิ ไม่ต้องทำหน้าเยาะเย้ยแบบนี้ ผมไม่ชอบ ขอบคุณครับ”

ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของกองทัพว่าค่าใช้จ่ายจะแบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือกองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ซึ่งมีแผนการจัดหายุทโธปกรณ์ที่จะใช้ในช่วง 20-30 ปี โดยจะต้องมีการพัฒนายุทโธปกรณ์ที่แต่ละเหล่าทัพจะพิจารณาและเสนอให้กระทรวงกลาโหม

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ


ส่วนเรื่องนักท่องเที่ยวชาวจีนล่มที่จังหวัดภูเก็ต และถูกโจมตีว่าการให้สัมภาษณ์ของตนส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและความรู้สึกของชาวจีนนั้น พล.อ.ประวิตร ชี้แจงว่า ตนไม่ได้ให้สัมภาษณ์ในเรื่องดังกล่าว แต่ยอมรับว่าเป็นการพูดคุยกันเล่นกับสื่อมวลชน และไม่คิดว่าจะหยิบยกไปเขียน จึงไม่คิดว่าเรื่องที่พูดจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โต ทั้งนี้ขอยืนยันว่าตนเป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้ดูแลเรื่องการท่องเที่ยว
ไป