วันที่ 2 กันยายน 2564 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ 5 รัฐมนตรี ที่รัฐสภา ในวันที่ 3 นั้น
ต่อมาเวลา 18.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงว่า เรื่องเรือดำน้ำพูดมาหลายรอบแล้ว ท่านก็ยังไม่เข้าใจว่าการทำสัญญาใดๆ ก็ตามต้องผ่านการเจรจาแบบรัฐต่อรัฐ ซึ่งการซื้ออาวุธจากจีนไม่เหมือนประเทศอื่น เพราะบริษัทผลิตยุทโธปกรณ์ต้องอยู่ใต้การกำกับดูแลของสถาบันที่รัฐบาลจีนเป็นผู้ควบคุมทั้งหมด เมื่อรัฐบาลจีนรับรองให้บริษัทใดทำก็เป็นเรื่องของแต่ละฝ่ายที่จะมอบหมายดำเนินการในการเจรจา
“งบประมาณจึงไม่ได้ผ่านไปสู่คนใดคนหนึ่ง เป็นไปตามกติกา ตามกฎหมาย ทั้งนี้ หวังว่าท่านคงจะพูดเรื่องนี้ต่อไปจนท่านไม่ได้เป็น ส.ส. ตนไม่อยากให้มีการพูดว่ามีคนจากกรรมาธิการ (กมธ.) มักเรียกร้องจากหน่วยงานแลกกับการไม่วิจารณ์หน่วยงานต่างๆ ส่วนตนยืนยันไม่เคยเรียกผลประโยชน์จากใคร พยายามลดการทุจริต ถ้ามีหลักฐานเพียงพอก็ให้ไปว่ากันในชั้นศาล ส่วนเรื่องคำถามในการคัดเลือกนักเรียนเตรียมทหารนั้น ต้องมีการตรวจสอบทัศนคติ เป็นคำถามธรรมดา ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ”
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวยืนยันว่า ไม่เคยเอากฎหมาย ทหาร ตำรวจ มาปกป้องตัวเอง ตนปกป้องตัวเองได้ ใครที่จะมาทำอะไรตนเห็นขู่กันจังข้างนอก ก็ลองมาแล้วกัน ตนไม่ได้ท้าทาย แต่คิดว่าป้องกันตัวเองได้ การบอกว่าเอากำลังมาปิดกั้นที่ดินแดงเพื่อปกป้องบ้านตนนั้นเป็นการชักชวนให้คนไม่เข้าใจหรือไม่ บริเวณดังกล่าวเป็นเส้นทางคมนาคม ทำให้การจราจรติดขัด แฟลตดินแดงเดือดร้อน แล้วจะทำไปทำไม จะมาจับตนได้หรือไม่
ทั้งนี้ ภายหลังจากนายกฯชี้แจงเสร็จสิ้น นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นสอบถามว่าเรื่องที่ตนพูดไปเมื่อสักครู่ขณะนี้ได้ย้ายจากชั้น 3 มาชั้น 2 ประเทศจีนมีเกมเปลี่ยนหน้า แต่ประเทศไทยมีเกมเปลี่ยนหัว ไม่อยากให้เป็นเรื่องจริง สงสารประชาชน
ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ลุกขึ้นชี้แจงทันทีว่า ที่กล่าวหา ลั่นมีคนมาพบ ตนไม่ใช่คนแบบนั้น ที่มีคนมาพบเพราะไม่ค่อยได้เจอกัน มาคารวะ ให้กำลังใจ ตนไม่ทำบ้าๆ บอๆ ไม่ทำถุงขนมอยู่แล้ว
