“บิ๊กตู่”ห่วงชาวบ้านจะแล้ง-ฝุ่นพิษสั่งทำฝนหลวงอย่างด่วน!

  • “ร.อ.ธรรมนัส” ระบุนายกฯ ห่วงภัยแล้งและฝุ่น PM 2.5
  • สั่งกรมฝนหลวงฯ เริ่มปฏิบัติการตามแผนประจำปีเร็วขึ้น 1 เดือน
  • พร้อมสนับสนุนบุคลากรและอากาศยาน

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้แก้ปัญหาภัยแล้งและฝุ่นละออง PM 2.5 จึงสั่งการให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องในฤดูแล้งนี้ หากพบว่าบริเวณใดสภาพอากาศเอื้ออำนวยให้หน่วยฝนหลวงเคลื่อนที่เร็ว ซึ่งมีอยู่ 3 ชุดบินขึ้นปฏิบัติการทันที ขณะนี้อยู่ในห้วงที่กรมฝนหลวงฯ ตรวจสอบและซ่อมบำรุงอากาศยาน ปกติแผนเปิดหน่วยฝนหลวงประจำปีจะเริ่มวันที่ 1 มีนาคม แต่ปีนี้จะเลื่อนเร็วขึ้นมาเป็นวันที่ 3 กุมภาพันธ์ เนื่องจากแนวโน้มสถานการณ์ภัยแล้งและฝุ่นละออง PM 2.5 จะรุนแรง

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเห็นสมควรขยายอัตรากำลังเจ้าหน้าที่กรมฝนหลวงและเพิ่มจำนวนอากาศยาน เพราะภารกิจมีมาก จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้เกิดความแห้งแล้งถี่และนานขึ้น ตลอดจนปี 2562 ช่วงที่มีปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 หลายพื้นที่ กรมฝนหลวงฯ ได้ปฏิบัติการ ทำให้พ้นวิกฤติมาได้ มั่นใจว่าการขออัตรากำลังเพิ่มไปยังคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) ซึ่งเสนอขอรับข้าราชการเพิ่มประมาณ 300 คน และพนักงาน 400 คนนั้น จะได้รับการพิจารณาตามความเหมาะสมของภารกิจและปริมาณงาน

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า หน่วยฝนหลวงเคลื่อนที่เร็ว 3 ชุด ประจำอยู่ที่สนามบินนครสวรรค์ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด หากพบที่ใดมีความชื้นสัมพัทธ์และดัชนีการยกตัวของเมฆเหมาะสมจะบินขึ้นทำฝนทันที การทำฝนช่วยแก้ภัยแล้ง เพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ และลดฝุ่นละออง PM 2.5

ซึ่งปีนี้มีแผนการทำงานเหมือนปีที่แล้ว โดยได้รับอนุญาตให้บินเข้าใกล้ท่าอากาศยานนานาชาติมากขึ้น จากปกติต้องอยู่ห่างไม่น้อยกว่า 60 ไมล์ โดยสามารถอยู่ห่างไม่น้อยกว่า 45 ไมล์ได้ ซึ่งจะสามารถบินปฏิบัติการบริเวณจังหวัดนครนายกและฉะเชิงเทรา เพื่อก่อเมฆแล้วให้ลมพัดพามาตกเป็นฝนในกรุงเทพฯ ได้

ทั้งนี้ การเปิดหน่วยฝนหลวงประจำปีระหว่างวันที่ 3-16 กุมภาพันธ์ 2563 จะเปิดหน่วยปฏิบัติการ 6 หน่วย ได้แก่ พิษณุโลก นครสวรรค์ ขอนแก่น บุรีรัมย์ ระยอง และสุราษฎร์ธานี โดยใช้อากาศยานรวม 12 ลำ เป็นเครื่องบินฝนหลวง 8 ลำและเครื่องบินกองทัพอากาศ 4 ลำ อีกทั้งเปิดฐานเติมสารฝนหลวง 1 ฐานที่ จ.เชียงใหม่

จากนั้นตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไปจะเปิดหน่วยปฏิบัติการทั้งหมด 11 หน่วย ได้แก่ เชียงใหม่ พิษณุโลก นครสวรรค์ กาญจนบุรี ขอนแก่น อุดรธานี บุรีรัมย์ อุบลราชธานี ระยอง ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) และสุราษฎร์ธานี โดยใช้อากาศยาน 29 ลำ เป็นเครื่องบินฝนหลวง 23 ลำ และเครื่องบินกองทัพอากาศ 6 ลำ รวมถึงเปิดฐานเติมสารฝนหลวง 5 ฐาน จ.ตาก ลพบุรี สกลนคร จันทบุรี และสงขลา (หาดใหญ่)