บอร์ดแข่งขันเตือนรพ.กรุงเทพซื้อหุ้นรพ.บำรุงราษฎร์

  • ต้องขออนุญาตและต้องได้รับอนุญาตก่อนรวมกิจการ
  • เหตุหลังรวมธุรกิจแล้วส่อผูกขาด-ลดแข่งขัน-ประชาชนเสียประโยชน์
  • ถ้าไม่ขอก่อนโดนปรับ0.5%ของมูลค่าธุรกรรมที่รวมธุรกิจ

นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ กรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.)  ในฐานะโฆษกคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า เปิดเผยถึงกรณีที่บริษัท กรุงเทพดุสิตเชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS จะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดโดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไข (Conditional Voluntary Tender Offer) ในหุ้นทั้งหมดของบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH ว่า หากมีการดำเนินการดังกล่าวจริง BDMS จะต้องขออนุญาตจาก กขค.ก่อนดำเนินการ เพราะเป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ ที่มีส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดของประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้จำนวนผู้แข่งขัน และสภาพการแข่งขันในตลาดลดลงอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงยังต้องคำนึงถึงเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ และผู้บริโภคด้วยว่า จะได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใดอีกด้วย

 ”ในกรณีนี้ ถ้าไม่ขออนุญาตก่อนการควบรวม จะมีความผิดตามพ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้าพ.ศ.2560 โดยจะมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 0.5% ของมูลค่าธุรกรรมในการรวมธุรกิจ อย่างไรก็ตาม กขค.ขอแจ้งเตือนผู้ประกอบธุรกิจรายอื่นๆ ที่กำลังมีแผนการควบรมธุรกิจ หรือเข้าซื้อหุ้นในธุรกิจอื่น ให้ศึกษากฎหมายฉบับนี้ให้ดี เพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมายโดยไม่ได้ตั้งใจ และหากไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย”

นายสันติชัย กล่าวว่า ตามพ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า กำหนดเงื่อนไขการควบรวมธุรกิจไว้ 2 กรณีคือ กรณีที่ 1 หากรวมธุรกิจแล้วทำให้เกิดการผูกขาด หรือมีอำนาจเหนือกตลาด (ส่วนแบ่งตลาด 50% ขึ้นไป และมียอดเงินขายรวม 1,000 ล้านบาทขึ้นไป) จะต้องขออนุญาต และได้รับอนุญาตจาก กขค.ก่อนจึงจะรวมธุรกิจได้ และกรณีที่ 2 หากรวมธุรกิจแล้ว ทำให้เกิดการลดการแข่งขันอย่างมีนัยสำคัญในตลาดใดตลาดหนึ่ง (ส่วนแบ่งตลาดน้อยกว่า 50% และมียอดขายรวม 1,000 ล้านบาทขึ้นไป) จะต้องแจ้งผลการรวมธุรกิจกับ กขค.ภายใน 7 วันนับจากวันที่รวมธุรกิจเสร็จสิ้น ซึ่งกรณีของ BDMS เข้าเงื่อนไขทั้ง 2 กรณี