บอร์ดสลากฯ เผยต้นตอสลากราคาแพง เหตุมีผู้ค้าหน้าใหม่เพิ่มขึ้นหลังเศรษฐกิจไม่ดีคนหันมาขายหวยเยอะ

  • สั่งสำนักงานสลากฯ กำหนดเกณฑ์ผู้ค้าสลากใหม่แก้ปัญหานำสลากไปขายช่วง
  • โดยการเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนผ่านช่องทางต่างๆ
  • เล็งพิมพ์สลากเกิน 100 ล้านฉบับหากประชาชนมีความต้องการเพิ่ม

นายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวหลังประชุมคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลนัดพิเศษ ว่า วานนี้(19ส.ค.) ที่มีการประชุมบอร์ดสลากกินแบ่งรัฐบาลนัดพิเศษขึ้น  เนื่องจากเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องซื้อสลากราคาสูงในตลาด ซึ่งสาเหตุหลักมาจากตลาดขายส่งมีผู้ซื้อสลากหน้าใหม่เข้ามาแย่งชิงซื้อสลากเพื่อนำไปขายต่อจำนวนมาก เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันทำให้บางคนหันมาประกอบอาชีพขายสลากหรือทำเป็นอาชีพเสริมมากขึ้น ประกอบกับประชาชนมีความต้องการสลากสูงขึ้น  จึงส่งผลให้สลากในระบบราคาเพิ่มขึ้นตามความต้องการด้วย   

ดังนั้นบอร์ดสลากฯ จึงสั่งให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พิจารณาการจัดระบบโควตาและระบบซื้อจองสลากจากธนาคารกรุงไทยใหม่ ซึ่งปัจจุบันแบ่งเป็น การซื้อจองผ่านธนาคารกรุงไทย  67 ล้านใบ และระบบโควตา 33 ล้านใบ รวมเป็น 100 ล้านฉบับ เพื่อดึงผู้ค้าหน้าใหม่ซึ่งเป็นผู้ค้าที่อยู่นอกระบบที่รับจองซื้อสลากเข้ามาอยู่ในระบบ ลดปัญหาการซื้อสลากจากตลาดขายส่ง ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เมื่อสลากไปถึงมือประชาชนจึงมีราคาแพงขึ้นหลายเท่าตัว   

รวมถึงให้สำนักงานสลากฯ กำหนดเกณฑ์คุณสมบัติผู้ขายสลากในระบบให้ชัดเจน เพื่อดึงให้ผู้ที่ต้องการขายสลากตัวจริงเข้าสู่ระบบให้มากที่สุด ป้องกันการนำสลากไปขายต่อหรือขายช่วงให้กับผู้ค้ารายอื่น ซึ่งนำไปสู่การรวมชุดสลากและทำให้สลากราคาแพงอย่างที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน  โดยการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนก่อนว่าควรจะกำหนดเกณฑ์หรือจัดระบบอย่างไร  ผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ เว็บไซต์ของสำนักงานสลาก ฯ ทางจดหมาย การจัดสัมมนา เป็นต้น เพื่อให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสลากราคาแพง   

“ ส่วนสลากที่สำนักงานสลากพิมพ์อยู่ในปัจจุบันจำนวน 100 ล้านฉบับนั้น บอร์ดสลากฯ เห็นว่ายังเป็นปริมาณที่เหมาะสมกับความต้องการซื้อของประชาชนอยู่ ในขณะที่ผู้ค้าสลากฯ มีความต้องการสลากมากกว่า 100 ล้านฉบับเห็นได้จากระบบจองซื้อสลากที่เปิดจองเพียง 2 นาทีผู้ค้าสลากก็จองสลากหมดเกลี้ยง  อย่างไรก็ตามถ้าในอนาคตมีข้อมูลว่าประชาชนมีความต้องการสลากเกิน 100 ล้านใบ บอร์ดสลากฯ ก็พร้อมพิจารณา แต่ต้องสามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงเรื่องที่ประชาชนมีความต้องการสลากเพิ่มขึ้นได้”  

ส่วนการแก้ไขปัญหาสลากแพงในระยะยาวนั้น กฎหมายได้เปิดช่องให้สำนักงานฯ สลากสามารถออกผลิตภัณฑ์ใหม่ได้  ซึ่งเรื่องนี้บอร์ดสลากฯ พบว่า มีประชาชนร้องขอมาโดยตลอดว่าอยากให้สำนักงานสลากฯ ออกผลิตภัณฑ์ใหม่นอกเหนือจากสลากใบที่มีอยู่เพื่อทำให้สามารถซื้อสลากใบในราคา 80 บาทได้เพราะมีเกมใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งเรื่องนี้บอร์ดสลากฯ ได้เดินหน้าเต็มที่ โดยจะเร่งสรุปแนวทางและรายละเอียดผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะออกมาให้เร็วที่สุด ก่อนเปิดรับฟังความความคิดเห็นจากประชาชน และผู้ที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน    

 “การออกผลิตภัณฑ์ใหม่ จะต้องรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนผู้ซื้อสลากจำนวน 20 ล้านคน และผู้ค้าสลากในระบบและนอกระบบจำนวนกว่า 200,000 รายด้วย เพราะเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อคนหลายกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ค้าสลากเดิมที่อยู่ในระบบจองซื้อและโควตา รวมถึงสมาคมคนพิการที่จะมีรายได้ลดลงด้วย ดังนั้นเพื่อให้ไม่ให้คนกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบจากผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะออกมา สำนักงานสลากฯ ได้จัดจ้างที่ปรึกษาจากสถาบันการศึกษาเพื่อช่วยศึกษาผลิตภัณฑ์ใหม่และศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้ผู้ค้าสลากเกิดผลกระทบน้อยที่สุด และลดการเปลี่ยนมือของสลากใบในระบบให้มากที่สุด ซึ่งทำให้สลากในปัจจุบันราคาแพง”  

ด้านนายบุญส่ง จันทรีศรี ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า สำนักงานสลากฯ รับเรื่องที่บอร์ดสลากฯ ให้ไปทำรายละเอียดเพิ่มเติมทั้งเรื่องการปรับปรุงระบบจัดระบบโควตาและระบบซื้อจองสลาก เพื่อดึงคนที่อยู่นอกระบบ และกฎหมายไม่สามารถควบคุมได้เข้ามาอยู่ในระบบอย่างถูกต้อง รวมถึงการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ตามความต้องการของประชาชน อย่างไรก็ตามจะเร่งสรุปรายละเอียดเรื่องต่างๆ เพื่อเสนอการประชุมบอร์ดสลากฯ ในวันที่  26 ส.ค.นี้ ต่อไป