บอร์ดบีโอไอคลอดแพคเกจใหม่ลงทุนในอีอีซียกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่ม

  • บริษัทที่พัฒนาบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  • หรือเข้าไปตั้งกิจการในเขตส่งเสริมเพื่อกิจการพิเศษ
  • ไฟเขียว 4 โครงการมูลค่าลงทุนกว่า 30,000 ล้านบาท

นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บอร์ดบีโอไอ ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้ปรับปรุงมาตรการส่งเสริมการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี ห) ให้ดึงดูดมากยิ่งขึ้น โดยเพิ่มประเภทกิจการเป้าหมายให้ครอบคลุมกว้างขึ้น ได้แก่ 1.กิจการในกลุ่มที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 5-8 ปีตามสิทธิพื้นฐานเกือบทุกประเภท ได้แก่ กลุ่ม A1 :อุตสาหกรรมฐานความรู้, กลุ่มA2:กิจการโครงสร้างพื้นฐานเพื่อพัฒนาประเทศ และกลุ่ม A3:กิจการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง 2. กิจการในกลุ่มการพัฒนาเทคโนโลยีเป้าหมาย ได้แก่ ไบโอเทค นาโนเทค วัสดุขั้นสูง และดิจิทัล และกลุ่มที่สนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีเป้าหมาย เช่น กิจการออกแบบทางอิเล็กทรอนิกส์ กิจการวิจัยและพัฒนา กิจการบริการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ เป็นต้น

สำหรับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีเงินได้นิติบุคคล ได้มีการกำหนดเกณฑ์การให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมใน 2 ทางเลือก ได้แก่ เกณฑ์ด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และเกณฑ์ที่ตั้ง โดยสามารถเลือกดำเนินการทั้งสองเกณฑ์ควบคู่กันเพื่อรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมสูงสุด หรือเลือกเกณฑ์ใดเกณฑ์หนึ่งก็ได้ ดังนี้ 1.เกณฑ์ด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ กรณีมีการพัฒนาบุคลากรไทยในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามรูปแบบที่กำหนด เช่น โครงการ Work-integrated Learning (WiL) สหกิจศึกษาและทวิภาคี หรือรูปแบบที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเห็นชอบ จะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมใน 2 ลักษณะแตกต่างกันตามกลุ่มประเภทกิจการ คือ กิจการในกลุ่ม A1, A2, A3 จะได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% เพิ่มเติม 3 ปี และกิจการในกลุ่มเทคโนโลยีเป้าหมายและกิจการสนับสนุนจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล เพิ่มเติม 2 ปี

2.เกณฑ์ที่ตั้งในโครงการในเขตส่งเสริมเพื่อกิจการพิเศษ ได้แก่ เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EECi) เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล (EECd) เมืองการบินภาคตะวันออก (EECa) และศูนย์นวัตกรรมการแพทย์ครบวงจร ธรรมศาสตร์ พัทยา (EECmd) จะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม คือ 1. กิจการในกลุ่ม A1, A2, A3 จะได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50 % เพิ่มเติม 2 ปี ส่วนกิจการในกลุ่มเทคโนโลยีเป้าหมายและกิจการสนับสนุนจะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล เพิ่มเติม 1 ปี นอกจากนี้ กรณีตั้งในนิคมหรือเขตอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซี จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติม 1 ปี ด้วย

โดยมาตรการนี้ให้มีผลบังคับใช้สำหรับคำขอรับการส่งเสริมที่ยื่นตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. 2563 จนถึงสิ้นปี 2564 ยกเว้นโครงการที่จะตั้งในเขตส่งเสริมเพื่อกิจการพิเศษ 4 แห่ง ได้แก่ EECi ,EECd ,EECa และ EECmd สามารถยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนตามมาตรการนี้ได้โดยไม่กำหนดระยะเวลาสิ้นสุดในการยื่นคำขอ
นอกจากนี้ บอร์ดบีโอไอ อนุมัติ 4 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 30,170 ล้านบาท ในกิจการผลิตเชื้อเพลิงเอทานอล กิจการการผลิตยางรถยนต์และยางรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 โครงการ และกิจการสกัดโลหะที่ไม่ใช้แล้วและเศษโลหะ