บวท.-กรมอุตุฯลงนามขอตกลงความปลอดภัยด้านเที่ยวบิน

  • วิทยุการบินฯ -กรมอุตุฯ ลงนามข้อตกลงประสานความร่วมมือ
  • ด้านอุตุนิยมวิทยาการบินเพื่อความปลอดภัยตามข้อกำหนดของ ICAO
  • พร้อมให้ความสะดวกรวดเร็วในการบริหารจัดการเที่ยวบิน

นาวาอากาศเอกสมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยา (อต.) ลงนามข้อตกลงการปฏิบัติงานด้านอุตุนิยมวิทยาการบิน (Letter of Agreement: LOA) กับบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) เพื่อประสานการทำงานด้านอุตุนิยมวิทยาการบินอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกรวดเร็วในการบริหารจัดการเที่ยวบิน

สำหรับการลงนามข้อตกลงฯ ฉบับปี 2563 นี้ เป็นการทบทวนแนวทางการปฏิบัติงานของกรมอุตุนิยมวิทยา และ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ให้เป็นไปตามมาตรฐานและข้อกำหนดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ว่าด้วยการจัดทำข้อตกลงการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานให้บริการอุตุนิยมวิทยาการบิน กับหน่วยงานผู้มีอำนาจหน้าที่ในการให้บริการจราจรทางอากาศ พ.ศ. 2559 กรมอุตุนิยมวิทยามีเจตนารมณ์ที่จะร่วมมือเพื่อให้การปฏิบัติงานด้านอุตุนิยมวิทยาการบิน และการให้บริการจราจรทางอากาศของ บวท. ให้เป็นไปตามมาตรฐานและเกิดความปลอดภัยกับเที่ยวบินต่าง ๆ

ด้าน นายสมนึก รงค์ทอง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บวท. กล่าวว่า สภาพอากาศเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ ที่จะส่งผลต่อความปลอดภัยและความคล่องตัวในการบริหารจราจรทางอากาศ บวท. จึงได้ร่วมมือกับกรมอุตุนิยมวิทยา ในการปฏิบัติงานด้านอุตุนิยมวิทยาการบินมาโดยตลอด โดยกรมอุตุนิยมวิทยาเป็นผู้ให้ข้อมูลพยากรณ์อากาศและ การแจ้งเตือนกรณีสภาพอากาศเลวร้าย หรือมีการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอย่างฉับพลัน ที่อาจเป็นอันตรายต่อการปฏิบัติการบินในช่วงของการทำการบิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณพื้นที่ที่เครื่องบินกำลังเพิ่มหรือลดระดับเพดานการบิน และพื้นที่เขตประชิดสนามบิน ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ของ บวท. และเจ้าหน้าที่ของกรมอุตุนิยมวิทยาได้ปฏิบัติงานร่วมกันอย่างบูรณาการในทุกสนามบินทั่วประเทศ

“บวท. และกรมอุตุนิยมวิทยา จะประสานการทำงานร่วมกันยิ่งขึ้น ทั้งในเชิงนโยบายและการปฏิบัติ เพื่อให้ข้อมูลด้านอุตุนิยมวิทยามีความถูกต้อง รวดเร็ว แม่นยำ ทันเวลา เป็นประโยชน์ต่อการบริหารจราจรทางอากาศและเป็นประโยชน์ต่อการทำการบิน ในการวางแผนการบินและบริหารจัดการเที่ยวบิน และเพื่อยกระดับการทำงานด้านอุตุนิยมการบินของประเทศให้สอดคล้องกับแนวทางแผนพัฒนาการเดินอากาศสากลขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศต่อไป”นายสมนึกกล่าว

สำหรับการลงนามบันทึกข้อตกลงฯ ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูล เชื่อมต่อระบบและอุปกรณ์ในส่วนที่เกี่ยวข้อง สนับสนุนความร่วมมือด้านบุคลากรเพื่อให้มีการถ่ายทอดความรู้ระหว่างกัน ซึ่งจะทำให้ การปฏิบัติงานร่วมกันมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงความร่วมมือในการพัฒนาด้านอุตุนิยมวิทยาการบิน เพื่อรองรับเทคโนโลยีอุตุนิยมวิทยาการบินสากล อันจะนำมาซึ่งประโยชน์ต่อระบบการเดินอากาศของประเทศแล้ว ความร่วมมือที่เกิดขึ้นนับเป็นโอกาสในการดำเนินการร่วมกันที่สำคัญยิ่งต่อประเทศไทย เพื่อขับเคลื่อนการปฏิบัติงานและก่อให้เกิดประโยชน์อย่างชัดเจน โดยมีเป้าหมายสูงสุดในการพัฒนาด้านการเดินอากาศให้ได้ตามข้อกำหนดของ ICAO ซึ่งอยู่บนพื้นฐานความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นสำคัญ