บลจ.ภัทรมองตลาดหุ้นยังน่าสนใจกว่าพันธบัตร

  • ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำและธนาคารกลางประเทศสำคัญพร้อมใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน
  • เดินหน้าเปิดกองทุนเพื่อเพิ่มโอกาสการลงทุนในหุ้นทั่วโลก

นายยุทธพลลาภละมูลกรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)ภัทรประเมินการลงทุนในช่วงที่เหลือของปี62 ว่าความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นจะทำให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนเพิ่มขึ้นแต่อย่างไรก็ตามยังมองว่าตลาดหุ้นยังคงมีความน่าสนใจลงทุนมากกว่าตลาดพันธบัตรในภาวะที่ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำอีกทั้งตลาดหุ้นยังได้รับแรงหนุนจากท่าทีที่ผ่อนคลายของธนาคารกลางของประเทศเศรษฐกิจหลักของโลกทั้งธนาคารกลางสหรัฐฯ(FED), ธนาคารกลางยุโรป(ECB) และธนาคารกลางจีน(PBOC) ที่จะใช้นโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้น

ส่วนปัจจัยอื่นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดได้แก่1.ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางประเทศต่างๆคือธนาคารกลางสหรัฐฯระหว่างวันที่18-19 มิ.ย. และธนาคารกลางญี่ปุ่นวันที่20 มิ.ย. 2.ผลการประชุมOPEC ระหว่างวันที่25-26 มิ.ย. ที่เวียนนาซึ่งจะมีการพิจารณาการต่ออายุมาตรการควบคุมกำลังการผลิตน้ำมันภายใต้สถานการณ์ปัญหาในเวเนซุเอลาอิหร่านและลิเบียที่ยังคงมีอยู่และ3.ผลการประชุมG20 ระหว่างวันที่28-29 มิ.ย. ซึ่งอาจนำไปสู่การเจรจาและข้อตกลงอย่างเป็นทางการระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯและจีนในด้านการค้า ทั้งหมดนี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดทิศทางของตลาดหุ้นทั่วโลกในระยะต่อไป

นายยุทธพลกล่าวต่อว่าด้วยมุมมองว่าการลงทุนในตลาดหุ้นยังมีความน่าสนใจบลจ.ภัทรจึงจะเสนอขายกองทุนเปิดภัทรพาสซีฟโกลบอลอิควิตี้( PHATRA-PGE) ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการเพิ่มโอกาสการลงทุนในหุ้นทั่วโลก

และสามารถลงทุนได้ในระยะยาวและรับความเสี่ยงได้สูงโดยกองทุนPHATRA-PGE จะนำเงินไปลงทุนในกองทุนหลักเพียงกองเดียวคือกองทุน  iShares MSCI ACWI ETF โดยเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้สอดคล้องกับผลการดำเนินงานของดัชนีMSCI ACWI ซึ่งเป็นดัชนีที่สะท้อนอัตราผลตอบแทนของตลาดในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วรวมถึงกลุ่มประเทศในตลาดเกิดใหม่(Emerging Market) โดยมุ่งเน้นลงทุนให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง