บรรดาร้านค้าในนิวยอร์ค นำแผ่นกระดานมาปิดร้านป้องกันการพังร้านขโมยของ หากการเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ​ เกิดความวุ่นวาย

Chinanews.com เผยแพร่ภาพถ่ายบรรยากาศของมหานครนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกาก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พฤศจิกายน (ตามเวลาสหรัฐฯ) บรรดาร้านค้าแฟชั่น ร้านขายยาและร้านรวงต่างๆ ได้ทำเอาแผ่นกระดาษมาปิดกั้นประตูร้านค้าไว้เผื่อการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นเกิดความไม่สงบเกิดขึ้น

ขณะเดียวกัน โพลโค้งสุดท้ายเลือกตั้งสหรัฐฯ เหลือไม่ถึง 1 วันก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเริ่มขึ้น ขณะที่ผลโพลทั่วประเทศล่าสุดชี้ว่า “โจ ไบเดน” ตัวแทนพรรคเดโมแครต ยังมีคะแนนนำ “โดนัลด์ ทรัมป์” ตัวแทนพรรครีพับลิกัน อยู่ 8.6% (51.6% ต่อ 43.0%) 

แต่ไม่ได้รับประกันว่า “ไบเดน” จะได้รับชัยชนะ เพราะการเลือกตั้ง เมื่อ 4 ปีก่อน “ฮิลลารี คลินตัน” ก็มีผลโพลทั่วประเทศนำห่าง “ทรัมป์” แทบจะตลอดระยะเวลาการหาเสียง แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้คณะเลือกตั้ง (electoral vote)

ทั้งนี้ ระบบการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นั้น กำหนดให้แต่ละรัฐตั้ง electoral vote ขึ้นมาจำนวนหนึ่ง ตามอัตราส่วนสมาชิกสภา ซึ่งผู้ชนะในรัฐนั้นๆ จะได้คะแนนเสียงจาก electoral vote ไปทั้งหมดโดยไม่สนส่วนต่างของคะแนนเสียง ยกเว้นที่รัฐ เนบราสกา และรัฐเมน และผู้สมัครคนได้ที่ได้คะแนน electoral vote ถึง 270 ก็จะได้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไป

ระบบดังกล่าวทำให้คะแนนคณะผู้เลือกตั้งรัฐสวิงสเตท หรือรัฐที่ไม่ใช่ฐานเสียงของทั้งเดโมแครตและรีพับลิกัน เพียงไม่กี่รัฐ อาจสามารถตัดสินผลการเลือกตั้งทั้งหมดได้ ผู้สมัครทั้ง 2 ฝ่ายจึงพยายามหาเสียงในรัฐเหล่านี้อย่างหนักเพื่อเพิ่มโอกาสชนะเลือกตั้ง

เดอะ การ์เดียน จัดทำโพลทุกวันโดยอาสัยค่าเฉลี่ยผลโพลใน 8 รัฐสวิงสเตท โดยเลือกรัฐที่มีคะแนนคณะผู้เลือกตั้งมากพอจะตัดสินผลเลือกตั้งได้ และ 6 ใน 8 รัฐนี้ ได้แก่ รัฐฟลอริดา, เพนซิลเวเนีย, โอไฮโอ, มิชิแกน, วิสคอนซิน และไอโอวา เป็นรัฐที่เปลี่ยนไปเลือกตัวแทนจากพรรครีพับลิกันอย่าง “โดนัลด์ ทรัมป์” ในปี 2559 หลังจาก 4 ปีก่อนหน้านั้นเลือก “บารัค โอบามา”

ผลโพลล่าสุดของเดอะ การ์เดียน ระบุว่า ตอนนี้ “ไบเดน” มีคะแนนนำนายทรัมป์ในรัฐฟลอริดาที่ 2.2%, เพนซิลเวเนีย 5.3%, มิชิแกน 8.7%, นอร์ท แคโรไลนา 1.6%, แอริโซนา 2.7% และ วิสคอนซิน 7.3% ส่วนประธานาธิบดีนำนายไบเดนที่รัฐ โอไฮโอ กับรัฐ ไอโอวา โดยคะแนนห่างกัน 1.8% กับ 0.2% ตามลำดับ