“นิพนธ์” สั่งการ ปภ.-ผู้ว่าฯ เตรียมพร้อมรับมือพายุ “คมปาซุ”

  • พร้อมแจ้งเตือนให้ประชาชนติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด
  • ย้ำเมื่อเกิดเหตุพร้อมช่วยเหลือทันที

นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะที่กำกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยถึงการติดตามสภาพอากาศร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 12 ต.ค. 2564  พายุโซนร้อนกำลังแรง “คมปาซุ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ ประเทศจีน และขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 13-14 ตุลาคม 2564 ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นอาจสูงมากกว่า 3 เมตร

นายนิพนธ์ กล่าวว่า การเตรียมการรับมือสถานการณ์พายุ “คมปาซุ” นั้น ได้สั่งการไปยังอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยของกรม ปภ. ที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมงในการช่วยเหลือประชาชนหากได้รับผลกระทบจากพายุ พร้อมทั้งกำชับไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน  อาสาสมัคร พร้อมทั้ง ประสานการปฏิบัติงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในทุกพื้นที่เสี่ยงต่อการสร้างความเสียหายจากพายุ ให้อยู่ในพื้นที่เพื่อเตรียมพร้อมปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชนได้ทันเหตุการณ์หากเกิดความรุนแรงจากผลกระทบ อย่างไรก็ตามการติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ก็ได้มีการแจ้งเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยใช้การสื่อสารทุกรูปแบบ ทั้งการกระจายข่าวผ่านทางหอกระจายข่าวหมู่บ้าน การแจ้งเตือนภัย ผ่านแอปพลิเคชันและไลน์ ดังนั้น ยืนยันว่าทุกฝ่ายได้เตรียมความพร้อมเพื่อดูแลพี่น้องประชาชนในส่วนนี้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ

   “กระทรวงมหาดไทยได้เน้นย้ำให้ทุกจังหวัด ทุกหน่วยปฏิบัติ ให้ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุที่ได้ซักซ้อมอยู่เป็นประจำ และเตรียมการอพยพตามแผนที่ต้องมีความพร้อม ทั้งเรื่องสถานที่ปลอดภัย อาหาร น้ำดื่มที่สะอาด การดูแลปฐมพยาบาล ตลอดจนการตรวจตราความเรียบร้อยไม่ให้ทรัพย์สินที่ยังอยู่ในบ้านเรือนที่อพยพมาเกิดการสูญหาย ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งสายด่วนสาธารณภัย โทร.1784 เพื่อขอความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง”