- คลัง เล็งประเมินรายรับงบประมาณปี 63ใหม่
- หลังรายได้หายราว 4-5 หมื่นล้านบาท
- เหตุรัฐขยายเวลาชำระเงินค่าใบอนุญาตคลื่นของผู้ประกอบการโทรคมนาคม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการคลังจะประเมินรายรับในงบประมาณปี 2563 ใหม่ หลังคาดว่ารายได้ที่เข้ารัฐบาลจะหายไปราว 40,000-50,000 ล้านบาท จากการขยายเวลาการชำระเงินค่าใบอนุญาตคลื่นความถี่ของผู้ประกอบการโทรคมนาคม
ทั้งนี้รายได้ที่หายไป จะส่งผลกระทบต่อการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ที่รัฐบาลชุดที่แล้วได้จัดทำไว้ ซึ่งกำหนดกรอบรายจ่ายไว้ที่ 3.2 ล้านล้านบาท โดยเป็นงบขาดดุล 450, 000 ล้านบาท ซึ่งหากรัฐบาลชุดใหม่ต้องการคงกรอบงบประมาณรายจ่ายและวงเงินขาดดุลเดิมไว้ คลังจะต้องหาแหล่งรายได้เพิ่มเติม เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไป ซึ่งแนวทางที่จะนำมาใช้น่าจะเป็นการให้รัฐวิสาหกิจส่งรายได้เข้ารัฐเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุม 4 หน่วยงาน คือ กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ และสำนักงบประมาณ เพื่อกำหนดกรอบงบประมาณประจำปี 2563 และ 2564 ในวันที่ 2 ส.ค.นี้ ที่สำนักงบประมาณ
ทั้งนี้รัฐบาลไม่น่าจะปรับลดวงเงินงบประมาณรายจ่ายปี 2563 ให้ต่ำกว่า 3.2 ล้านล้านบาท เพราะอาจเป็นการส่งสัญญาณที่ไม่ดี ในช่วงที่เศรษฐกิจอยู่ในภาวะชะลอตัว เนื่องจากผลของสงครามการค้าสหรัฐอเมริกา-จีน ซึ่งการตัดลดงบประมาณให้ต่ำลงจะส่งผลเสียต่อการลงทุนในประเทศ
ส่วนการกู้เงินเพิ่มเติม 450,000 ล้านบาท เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปนั้น ตามกฎหมายสามารถทำได้ แต่น่าจะเป็นทางเลือกที่ไม่เหมาะสมในมิติทางการเมือง เนื่องจากอาจถูกพรรคฝ่ายค้านรุมถล่มได้ในเรื่องของวินัยการเงินการคลัง ซึ่งขณะนี้พรรคฝ่ายค้านมองว่ารัฐบาลประยุทธ์ ได้ก่อหนี้เพิ่มขึ้นมากในช่วง 5 ปีของการเป็นรัฐบาล