นายกฯ เชื่อมั่นศักยภาพไทยเป็นเจ้าภาพ “MotoGP 2022” ต่อเนื่อง

  • ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฯ ต่อไปจนถึงปี 69
  • สั่งทุกหน่วยงานต่อยอดนโยบาย Soft Power
  • ดึงดูดนักท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามและชื่นชมที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการ โมโต จีพี (MotoGP) อีกครั้ง ถือเป็นโอกาสพัฒนาศักยภาพกีฬาไทยอย่างมีประสิทธิภาพในทุกมิติ ทั้งยังเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวไทย

ทั้งนี้ประเทศไทยเคยประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน MotoGP เมื่อปี 2562 มาแล้ว ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นโอกาสกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเม็ดเงินหมุนเวียนในจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดภาคอีสานรวมกว่า 4,000 ล้านบาท มีผู้เข้าร่วมงานทั้งหมดกว่า 2.2 แสนคน เป็นชาวไทย 1.6 แสนคน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5.9 หมื่นคน ทำให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่รวม 5,466 ตำแหน่ง เห็นได้ว่าการเป็นเจ้าภาพ MotoGP เป็นโอกาสสร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรม รัฐบาลจึงผลักดันไทยให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการ โมโต จีพี (MotoGP) ด้วยแนวคิดสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism) ดึงดูดเรดาร์ของโลกและนักท่องเที่ยวต่างชาติผ่านการเป็นโมเดลของการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับโลก เพื่อเป็นโอกาสต่อยอดสนับสนุนกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในปีนี้ไทยได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก “MotoGP 2022” สนามที่ 18 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 กันยายน – 2 ตุลาคม 2565 ณ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ และไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฯ ต่อไปจนถึงปี 2569

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียินดีและเชื่อมั่นในศักยภาพและความพร้อมของประเทศ ทั้งด้านสถานที่จัดการแข่งขันที่มีมาตรฐานสากล ด้านการบริหารจัดการกิจกรรมการแข่งขันที่ไทยมีความชำนาญ ด้านทรัพยากรที่พร้อมต่อการใช้จัดการแข่งขันระดับโลก ทรัพยากรบุคคลที่มีประสบการณ์ ความรู้ ความเชี่ยวชาญ ตลอดจนเอกลักษณ์ความเป็นไทย ที่สามารถดึงดูดสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนได้อย่างดี

รวมทั้ง นายกรัฐมนตรีได้เป็นกำลังใจให้นักกีฬาชาวไทยที่เข้าร่วมการแข่งขันฯ ให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่มุ่งมั่นตั้งใจ และได้รับประสบการณ์ที่ดี อีกทั้งเน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้บริหารงานภายใต้มาตรการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ด้วยความเข้มงวดรอบคอบ และหากมีโอกาสให้สนับสนุนใช้ Soft Power ที่ไทยมีในหลากหลายมิติ เพื่อสร้างความประทับใจ เป็นอีกแรงผลักดัน Soft Power ของไทยในเวทีโลก