นายกฯ สั่งเร่งดับไฟป่าภาคเหนือ ไม่ให้ขยายสร้างความเสียหายในพื้นที่อื่น ๆ

  • กำชับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน
  • ขอให้บังคับใช้กฎหมาย
  • ดำเนินคดีผู้ลักลอบเผาป่าอย่างเด็ดขาด

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดไฟป่าในพื้นที่ตำบลแม่แฝกใหม่ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรับทราบรายงานแล้ว โดยนายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กำชับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ร่วมกับกองทัพระดมกำลังลงพื้นที่เร่งดับไฟป่า กระชับพื้นที่ไม่ให้ขยายเป็นวงกว้างมากขึ้นกว่าเดิม พร้อมสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะส่วนท้องถิ่นจัดเวรยามคอยเฝ้าสอดส่องดูแลสถานการณ์ รวมถึงคอยสังเกตุพฤติกรรมลูกบ้านที่อาจจะลักลอบไปจุดไฟเพื่อเตรียมพื้นทีทำการเกษตร และหาของป่าในช่วงเวลานี้

ทั้งนี้ทุก ๆ ปี ตั้งแต่เดือนมกราคม – เมษายนของทุกปี ภาคเหนือมักจะประสบปัญหาวิกฤติหมอกควัน สาเหตุหลักมาจากการเผาป่า การเผาเศษวัสดุทางการเกษตรในพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และการเผาในพื้นที่ทำไร่หมุนเวียน ทำให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และทัศนวิสัยการเดินทางของประชาชน โดยนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้หน่วยงานในพื้นที่เตรียมการรับมือกับปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งคุมเข้มมาตรการทางกฎหมาย ร่วมกันสร้างความตระหนักรู้ถึงความรับผิดชอบต่อสังคม ป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่า รวมถึงประชาสัมพันธ์เผยแพร่รณรงค์ลดการเผาในพื้นที่การเกษตรผ่านช่องทางสื่อต่างๆ ให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องและให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เร่งหาตัวผู้กระทำผิด มาดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด เพื่อเป็นตัวอย่างและป้องปรามไม่ให้มีการกระทำผิดในลักษณะเดียวกันอีก

“ปัญหาการลักลอบจุดไฟเพื่อเตรียมพื้นที่ทำการเกษตร และหาของป่า เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทุกปี ปัญหาจะไม่สามารถแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ถ้าประชาชนไม่ร่วมมือกับภาครัฐในการแก้ไขปัญหา ขอความร่วมมือประชาชนเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก ขอให้คำนึงถึงผลกระทบตามมาจากการกระทำด้วย ในแต่ละปีภาครัฐต้องใช้งบประมาณและกำลังคนเป็นจำนวนมากในการดับไฟป่า”