นายกฯ สั่งเร่งขยายผลศูนย์แจ้งเหตุความไม่ปลอดภัย หลัง 8 เดือน ผู้ใช้ทะลุ 1 ล้าน

  • ส่วนใหญ่ร้องเหตุอุบัติเหตุ-บูลลี่
  • เน้นย้ำแก้ไขปัญหารวดเร็ว
  • มีประสิทธิภาพ

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยและให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยในสถานศึกษา ซึ่งหากสถานศึกษาไม่มีความปลอดภัย จะไม่สามารถจัดการเรียนการสอนที่มีคุณภาพให้กับผู้เรียนได้ ส่งผลต่อการพัฒนาการศึกษาของไทย รวมถึงการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคม โดยได้มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการกำหนดเรื่องความปลอดภัยในสถานศึกษาเป็นวาระเร่งด่วน

พร้อมกำชับให้ขยายแนวทางปฏิบัติ รวมถึงการแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงและความรุนแรง สามารถแก้ไขปัญหาได้ถึงแหล่งต้นตอของปัญหา มีการติดตามความคืบหน้า สร้างความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย รวมถึงเก็บเป็นฐานข้อมูล Big-Data นำมาวางแผนและกำหนดนโยบายพัฒนาสถานศึกษาและด้านความปลอดภัยในแต่ละพื้นที่ เพื่อขยายผลในการป้องกัน ปลูกฝัง ปราบปราม รวมถึงการสร้างทักษะให้ผู้เรียนมีความสามารถในการดูแลตนเองจากภัยอันตรายต่างๆ

นางสาวรัชดา กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากระทรวงศึกษา ได้สานต่อนโยบายเรื่องความปลอดภัยในสถานศึกษา พัฒนาระบบการแจ้งเหตุความไม่ปลอดภัยขึ้น ใช้ชื่อว่าศูนย์ “MOE SAFETY CENTER” โดยใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล เป็นแอปพลิเคชันในการแจ้งเหตุความไม่ปลอดภัย และได้พัฒนาบุคลากรทางการศึกษาในทุกสังกัดของกระทรวงให้มีความรู้ ความเข้าใจในการใช้งานระบบ เพื่อรับแจ้งเหตุความไม่ปลอดภัยที่มีผลต่อนักเรียน นักศึกษา ครู และบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงให้ความสำคัญการอบรมครูผู้สอนให้มีความรู้ มีทักษะที่จะนำไปสื่อสารกับเด็ก ทั้งนี้ระยะเวลา 8 เดือน ที่เปิดใช้งาน MOE Safety Center มีผู้ใช้งานทั้งสิ้น 1,086,153 คน ส่วนใหญ่ร้องเรื่องอุบัติเหตุและบูลลี่

“รัฐบาลโดยกระทรวงศึกษาธิการมีความมุ่งมั่นในการจัดให้มีรูปแบบ วิธีการ กระบวนการในการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ให้เกิดความปลอดภัยในทุกด้าน ทั้งด้านร่างกาย และจิตใจ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ มีความสุข เพื่อนำไปสู่การยกระดับคุณภาพการศึกษาเด็กและเยาวชนไทย ทั้งนี้ ครู นักเรียนและบุคลากรการศึกษา”