- ยินดีงาน “TAPA 2023” จัดขึ้นเมษายน 2566 นี้
- เพิ่มโอกาสเจรจาการค้าให้ผู้ประกอบการไทยและนานาชาติ
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีกับความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ในการจัดงาน “TAPA 2023” (Thailand International Auto Parts & Accessories Show 2023) งานเจรจาการค้าและแสดงสินค้าชิ้นส่วน อะไหล่ยานยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่ง ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 – 8 เมษายน 2566 นี้ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมแสดงสินค้ากว่า 455 บริษัท 787 คูหา จากหลากหลายประเทศในภูมิภาค พร้อมเชื่อมั่นว่าจะเพิ่มโอกาสต่อยอดธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ รวมถึงผลักดันให้ไทยเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ในระดับโลก
งาน TAPA 2023 จัดขึ้นจากความร่วมมือของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับสถาบันและสมาคมผู้ประกอบการชิ้นส่วนยานยนต์ต่าง ๆ โดยจะรวบรวมสินค้าชิ้นส่วน อะไหล่ยานยนต์ และอุปกรณ์ตกแต่ง ตามแต่ละประเภท ได้แก่ Engines & Transmissions, Brake Systems, Steering Systems, Body Parts, Electrical / Electronics, Suspensions, Interiors / Exteriors และอื่น ๆ จากผู้ประกอบการไทยและต่างชาติ ด้วยคุณภาพมาตรฐานสากล โดยกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ อาเซียน เอเชียใต้ จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน ออสเตรเลีย แอฟริกา สหภาพ ยุโรป ตะวันออกกลาง และอเมริกาใต้ ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Sustainable for the Future” เพื่อแสดงทิศทางของอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ของไทยที่จะพัฒนาและเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรม (World Auto Parts Sourcing Hub) ที่มุ่งเน้นความยั่งยืนเพื่อตอบโจทย์โลกยุคใหม่ รวมทั้งยังมีการจัดนิทรรศการ นำเสนอนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อท้องถนนและสิ่งแวดล้อม และสัมมนาวิชาการ แลกเปลี่ยนความรู้ด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ต่าง ๆ
นอกจากนี้ ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การจัดงาน TAPA 2023 ครั้งนี้ มีเป้าหมายที่จะสร้างมูลค่าการสั่งซื้อรวมกว่า 41.14 ล้านบาท โดยอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ ถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญอย่างมากต่อเศรษฐกิจไทย ก่อให้เกิดการจ้างงานภายในประเทศกว่า 550,000 คน ในแต่ละปีไทยมีการส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์และอุปกรณ์มูลค่าเฉลี่ย 14,800 ล้านดอลลาร์ ต่อปี หรือประมาณ 480,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 5.5 % หรืออันดับ 4 ของมูลค่าการส่งออกรวมของประเทศไทย สอดคล้องกับสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย (TAPMA) ที่ระบุว่า อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ไทยมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับ สามารถแข่งขันได้ในเวทีนานาชาติ สามารถผลิตชิ้นส่วนได้สำหรับรถยนต์ทุกชิ้นส่วน สะท้อนได้จากอัตราการเติบโตของการส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ในทุก ๆ ปีที่ผ่านมา และสามารถทำตลาดได้ทั่วโลก
“นายกรัฐมนตรีชื่นชมการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ของไทย ซึ่งที่ผ่านมาสามารถสร้างมูลค่าการค้าได้อย่างต่อเนื่อง สะท้อนความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ และเอกชน รวมทั้ง ศักยภาพของไทยในการเป็นผู้ผลิตและส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ โดยรัฐบาลพร้อมส่งเสริม ผลักดันผู้ประกอบการ ซึ่งเชื่อมั่นว่างานดังกล่าวจะสร้างโอกาสทางธุรกิจและขยายการลงทุนในภาคส่วนนี้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้ไทยก้าวสู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ระดับโลก”
