นายกฯ ดันพัฒนาแบรนด์ให้โอทอปเพิ่มช่องทางตลาดออนไลน์

  • ปลื้มผลงานขึ้นทะเบียน 8.9 หมื่นราย
  • รวม 1.9 แสนผลิตภัณฑ์
  • เปิดยอดขายปี62 แตะสองแสนล้าน

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ติดตามการทำงานของกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ในการเดินหน้าโครงการ “หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP)” ซึ่งนายกฯ พอใจผลสำเร็จของงานที่มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องครอบคลุมตั้งแต่การส่งเสริมยกระดับกระบวนการผลิต การสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ผลิตภัณฑ์ การเพิ่มช่องทางการตลาดในระดับท้องถิ่น/ประเทศ/ต่างประเทศ การเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยว การเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือภาคเอกชนและวิสาหกิจเพื่อสังคม จนทำให้มีผู้ขึ้นทะเบียน OTOP เพิ่มขึ้นอย่างมาก ตัวเลข ณ ก.ค. ปีนี้ มีจำนวน 8.9 หมื่นราย (หากรวมสมาชิกและที่เป็นแรงงาน คิดเป็น 8 แสนคน) 1.9 แสนผลิตภัณฑ์ จากที่มีเพียง 3.6 หมื่นราย 7.1 หมื่นผลิตภัณฑ์ ในปี 2557 ซึ่งในช่วงปี 2561-2562 มียอดขายเฉลี่ยปีละ 2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงปี 2557-2560 ที่เฉลี่ยปีละ 1.2 แสนล้านบาท ทั้งนี้ ยังมุ่งเป้ายกระดับกลุ่มผลิตภัณฑ์  จำนวน 19,557 ผลิตภัณฑ์ เช่น โครงการพัฒนาผ้าชาติพันธุ์  จำนวน  35  ผลิตภัณฑ์ โครงการเพิ่มศักยภาพการค้า การลงทุนตามแนวชายแดน จำนวน  4,600 ผลิตภัณฑ์ โครงการยกระดับผ้าทออีสานสู่สากล  จำนวน  2,900 ผลิตภัณฑ์

มากไปกว่านั้น นายก ฯ เน้นถึงปัจจัยสำคัญในการขยายผลความสำเร็จของโครงการฯ อาทิ 1) การทำ OTOP Big Data หรือการพัฒนาระบบข้อมูลขนาดใหญ่ ของโครงการฯให้มีความถูกต้อง  ครบถ้วน เป็นปัจจุบัน  และเชื่อมโยงข้อมูลทั้งภายในและภายนอก เพื่อจะได้นำมาใช้ในการวางแผนการตลาดและการผลิต รวมถึงบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2) การพัฒนาสร้างแบรนด์ OTOP ให้มีความโดดเด่นและเป็นอัตลักษณ์ของชุมชน เป็นแบรนด์ท้องถิ่นอย่างแท้จริง เกิดการสร้างงานและการกระจายรายได้ในชุมชน และ 3) การพัฒนาการตลาดออนไลน์ทั้ง Website และ Facebook ซึ่งปัจจุบันมีการดำเนินการอยู่แล้ว แต่ต้องประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มลูกค้าทั้งในและต่างประเทศรู้จักมากขึ้น มีการปรับปรุงให้ทันสมัยตลอดเวลา

“ในโอกาสเป็นประธานเปิดงาน “ศิลปาชีพ ประไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี” ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ท่านนายกฯ ยังสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องคนไทย แม้ปีนี้เราต้องเผชิญกับวิกฤติโควิด19 แต่หากช่วยกันอุดหนุนสินค้าของคนไทย และทุกภาคส่วนร่วมมือร่วมใจในการ “รวมไทยสร้างชาติ” เราก็จะสามารถก้าวพ้นความยากลำบากจากผลกระทบโควิด19 ได้ในเวลาไม่นาน จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน มาเที่ยวชมงานฯ ร่วมเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ทรงคุณค่า ช่วยกันสนับสนุนชุมชน ซึ่งจะจัดถึงวันที่ 16 ส.ค. มียอดขายสามวันแรก (8-10 ส.ค) รวม 140 ล้านบาท จาก 1,366 บูธ” รองโฆษกฯ กล่าว