.เผยครม.ยังไม่ได้พิจารณาแจกเงิน 3 พันบาท
.สั่งศึกษาแลนด์บริดจ์ เชื่อมอ่าวไทย-อันดามัน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ได้หารือในประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่าจะพิจารณาหาวันหยุดให้มากขึ้นในระยะต่อไป เพราะเห็นว่ามีการท่องเที่ยว มีการหมุนเวียนใช้จ่ายเงินในการท่องเที่ยวมากขึ้นทำให้ธุรกิจหลายๆอย่างดีขึ้น จึงขอให้ทุกคนได้ช่วยกันท่องเที่ยวในประเทศ เพราะจะทำให้ห่วงโซ่ต่างๆ ในประเทศขับเคลื่อนไปได้ถึงแม้ว่ามันจะไม่ดีเท่าเดิม อย่างน้อยก็ต่อลมหายใจกันและกัน ส่วนความคืบหน้าภูเก็ตโมเดลและการเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศ เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ในเดือนต.ค. นายกฯ กล่าวว่า เรื่องการท่องเที่ยวให้คนไทยท่องเที่ยวภายในประเทศไปก่อน ส่วนการเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยนั้นคงจะต้องมีการพิจารณากันอีกครั้ง และยังไม่ได้พับโครงการนี้
สำหรับโครงการ “คนละครึ่ง”แจกเงิน 3,000 บาท ให้ประชาชน ว่า ไม่มีการพิจารณาในที่ประชุมครม.ครั้งนี้ ข่าวออกไปยังไม่มีรายละเอียดในการดำเนินการ วันนี้รัฐบาลมุ่งเน้นว่า ถ้ามีเงินก็ต้องนำมาดูแลผู้ประกอบการรายย่อย ค้าปลีก พ่อค้า แม่ค้าระดับล่างที่ได้รับความเดือดร้อนก่อน ซึ่งกำลังพิจารณากลไกที่จะนำมาใช้ในการดูแลอยู่ ทั้งนี้เรามีข้อมูลไม่พร้อม ระบบการจ่ายเงินโดยตรงก็ไม่พร้อม ซึ่งต้องใช้เวลา แต่ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจในการที่จะให้ผู้บริโภค มีโอกาสซื้อของจากร้านค้าปลีก ระดับล่าง ไม่ใช่ผู้ประกอบการรายใหญ่
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ขณะนี้รัฐบาลมุ่งเน้นไปถึงการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ ที่ต้องพึ่งพาการส่งออกกับการท่องเที่ยว ซึ่งพอเกิดปัญหาขึ้นมาทั้ง 2 อย่าง ทำให้เศรษฐกิจประเทศไทยตกต่ำมาก เพราะรายได้ของประเทศลดลง เราจำเป็นต้องสร้างเศรษฐกิจใหม่ และเรากำลังจะทำให้เกิดขึ้น ถึงแม้เราจะมีแผนงานเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) แล้วก็ตาม วันหน้าเราก็ต้องหาโครงการขนาดใหญ่ ในการที่จะลงทุนในประเทศไทยให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้ ซึ่งตรงนี้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของเรา ทุกอย่างต้องใช้เวลาในการก่อสร้าง เช่น อีอีซีก็เริ่มมา 5 ปีแล้ว ก็ไปได้ระยะหนึ่ง
เพราะฉะนั้นต้องหาโครงการใหม่ กำลังดูว่าจะเชื่อม การเชื่อมทั้ง 2 ฝั่ง ทั้งตะวันตกและตะวันออกได้อย่างไร ควรจะมีหรือไม่ เกี่ยวกับการศึกษาทางด้านสะพานเศรษฐกิจ(แลนด์บริดจ์) ซึ่งกำลังให้แนวทางไปศึกษา จะช่วยในเรื่องของเศรษฐกิจระยะยาว ได้ในโอกาสต่อไป โดยเฉพาะการขนส่งข้ามตะวันตก และตะวันออก หรืออ่าวไทยกับอันดามัน โดยเฉพาะท่าเรือต่างๆต้องมีการพัฒนาทั้งหมด ซึ่งก็ถือว่าอยู่ในยุทธศาสตร์ชาติที่จะต้องเดินต่อไป ขั้นตอนการศึกษา ขั้นตอนการลงทุน สิ่งเหล่านี้เป็นผลดีในระยะยาว
นอกจากนี้ ครม.เห็นชอบให้มีการจ่ายเงินจ้างงาน นิสิต นักศึกษา ผู้จบการศึกษาใหม่ 260,000 ราย เป็นเวลา 12 เดือน ทั้งในส่วนของผู้ที่จบ ปวช. ปวส. และปริญญาตรี โดยจ่ายฝ่ายละครึ่งร่วมกับภาคเอกชน รวมถึงการจ้างงานอื่นๆ รวมประมาณ 1 ล้านคน ซึ่งจะเป็นงบประมาณของแต่ละกระทรวง
