นายกรัฐมนตรีเคาะขยายมาตรการลดค่าครองชีพประชาชน- สั่งรีดค่ากลั่นน้ำมันเข้ากองทุน – ช่วยลดเบนซิน 1 บาท ต่อลิตรทันที จ่อชงเข้าครม. สัปดาห์หน้า

.โรงกลั่นน้ำมันยอมแบ่งกำไรของค่าการกลั่นให้รัฐบาล 3 เดือนนำมาลดราคาน้ำมันเบนซินได้ลิตรละ 1 บาท

.ส่วนกำไรจากค่าการกลั่นดีเซลและกำไรส่วนเกินโรงแยกก๊าซ นำเข้าเสริมสภาพคล่องกองทุนน้ำมัน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อเวลา 15.30 น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมทีมเศรษฐกิจ เพื่อหารือมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากราคาพลังงาน โดยใช้เวลาประชุมกว่า 1 ชั่วโมง จากนั้นได้มอบหมายให้นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) และนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ร่วมกันแถลงข่าว

โดยนายดนุชา เปิดเผยว่า นายกฯเห็นชอบให้เสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันที่ 21 มิ.ย.นี้ต่ออายุมาตรการลดผลกระทบประชาชนที่ได้รับผลจากราคาพลังงาน ซึ่งจะสิ้นสุดลงในสิ้นเดือนมิ.ย.นี้ต่อไปอีก 3 เดือนตั้งแต่ ก.ค.-ก.ย.2565 โดยจะไม่คงไว้ทั้ง 10 มาตรการเดิม เพราะมาตรการลดการนำส่งเงินเข้ากองทุนประกันสังคมจะไม่มีแล้ว ทั้งหมดนี้ยังคงขอเงินจากงบกลางฯมาดำเนินการ และยังอยู่ระหว่างสรุปวงเงิน รวมทั้งมีมาตรการใหม่เพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ คือ บริษัทที่ไปจัดประชมสัมมนาหรือจัดอีเว้นท์ เอ็กซิบิชั่นในเมืองรองให้นำค่าใช้จ่ายมาลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า และจัดในเมืองหลักลดหย่อนได้ 1.5 เท่า ตั้งแต่ 15 ก.ค.-31 ธ.ค.2565 ในส่วนนี้รัฐจะเสียรายได้ไป 300-500 ล้านบาท


“มาตรการช่วยเหลือค่าก๊าซเอ็นจีวีให้รถแท็กซี่ และส่วนลดก๊าซแอลพีจียังคงมีอยู่ ส่วนการลดค่าเอฟทีให้กับบ้านที่ใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วยจะสิ้นสุดในเดือนส.ค.จึงยังไม่เสนอต่ออายุ และมีมาตรการขอความร่วมมือผู้ค้ำน้ำมัน ให้คงค่าการตลาดไว้ที่ 1.40 บาทต่อลิตร รวมทั้งจะขอความร่วมมือปิดไฟป้ายโฆษณาและให้ห้างสรรพสินค้าปิดแอร์ก่อนถึงเวลาปิดห้าง 1 ชั่วโมง”


ด้านนายกุลิศ เปิดเผยว่า รัฐบาลได้เจรจาและขอความร่วมมือโรงกลั่นทุกแห่งทั้งของไทยและต่างชาติ นำส่งกำไรส่วนหนึ่งของค่าการกลั่นให้กับกองทุนน้ำมันและเชื้อเพลิงเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนก.ค.-ก.ย. คิดเป็นวงเงินเดือนละ 7,500-8,000 ล้านบาท รวม 3 เดือนประมาณ 24,000 ล้านบาท โดยเก็บจากกำไรค่าการกลั่นน้ำมันดีเซล เดือนละ 5,000-6,000 ล้านบาท และขอกำไรส่วนเกิน50%ของโรงแยกก๊าซ เดือนละ 1,500 ล้านบาท

โดยสองส่วนนี้จะนำมาเสริมสภาพคล่องให้กองทุนน้ำมันเพราะที่ผ่านมาได้นำเงินจากกองทุนฯช่วยเหลือราคาน้ำมันดีเซลและก๊าซหุงต้มไปเยอะแล้ว ทำให้สิ้นเดือนมิ.ย.นี้ กองทุนฯจะติดลบแตะ 100,000 ล้านบาท และ เงินที่ได้เข้ามาก็ยังไม่เพียงพอเพราะกองทุนฯยังมีเงินจ่ายออกอีกเดือนละ 20,000 ล้านบาทนอกจากนี้ จะเก็บกำไรจากค่าการกลั่นน้ำมันเบนซินได้เดือนละ 1,000 ล้านบาท ส่วนนี้จะนำมาลดราคาน้ำมันเบนซินได้ลิตรละ 1 บาททันที