“นายก”ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 1 เดือน จ่อใช้ “เคอร์ฟิว” หากสถานการณ์บานปลาย

  • ชี้หากชุมนุมลุกลามมีสิทธิ์ใช้ “เคอร์ฟิว”
  • เตือนนักศึกษาอย่าอยู่ใน “กลุ่มต้องสงสัย”
  • เผยทำเพื่อคนส่วนใหญ่-ถูกนักธุรกิจแห่ร้องเรียน

วันนี้ (16 ต.ค. 63) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเสนอให้ ครม. พิจารณาคำสั่ง ข้อกำหนด และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งบังคับใช้เพื่อควบคุมการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยระหว่างการแถลงข่าวผลการประชุม ครม. นัดพิเศษ พร้อมรัฐมนตรีใน ครม. ว่า วันนี้ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ตามที่เสนอ

สำหรับ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรงในพื้นที่กรุงเทพมหานครนั้น มีผลเมื่อเวลา 04.00 น. วานนี้ (15 ต.ค. 63) ซึ่งตามขั้นตอนจะต้องนำเสนอเรื่องให้ ครม. พิจารณาภายใน 3 วัน โดยวันนี้ก็ได้ทำครบถ้วนสมบูรณ์ตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว

ในวันนี้ก็ถือโอกาสชี้แจง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่มีความร้ายแรง จากสถานการณ์ที่ทุกท่านทราบดีอยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในประเทศของเรา ในเวลานี้ ซึ่งรัฐบาลมีความจำเป็นต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ สำหรับความมุ่งหมายของรัฐบาล จำเป็นต้องดำเนินการเพราะสถานการณ์มันมีความรุนแรงเกิดขึ้น จะเห็นได้ว่ามีหลายอย่างที่เกิดขึ้น ทั้งที่มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

สาระสำคัญในนั้นมีหลายประการด้วยกัน มีทั้งเรื่องการห้าม มอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่ในการตรวจค้นจับกุมผู้ต้องสงสัย เพราะฉะนั้นอันนี้กราบเรียนว่า ที่ผ่านมาเราใช้กฎหมายปกติ ใช้ กฎหมาย พ.ร.บ.ชุมนุม ซึ่งวันนี้ไม่ได้ใช้กฎหมายนี้แล้ว เพราะฉะนั้นก็กราบเรียนทุกท่านให้เข้าใจว่าสาระสำคัญของการบังคับใช้กฎหมายพิเศษมีอะไรบ้าง ตั้งแต่เริ่มการชุมนุม การห้ามไม่ให้มีการชุมนุม การเข้าตรวจค้นผู้ต้องสงสัย จับกุม

ทั้งนี้ รัฐบาลมุ่งหวังให้บ้านเมืองเรามีเสถียรภาพ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เรามีผลกระทบจากโควิด-19 ทางด้านเศรษฐกิจ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย เมื่อวานนี้ก็หารือกับฝ่ายเศรษฐกิจทั้งหมด ทั้งเศรษฐกิจในประเทศ เศรษฐกิจต่างประเทศ ทวิภาคี พหุภาคี เรากำลังเดินหน้าทุกอย่าง ใช้งบประมาณ งบฟื้นฟู งบปกติ งบ 63 งบ64 ในทำงานอย่างต่อเนื่อง ในการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามแนวชายแดน เราก็ทำทั้งหมด ซึ่งสถานการณ์ทุกอย่างที่ผ่านมา ก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

“แต่นี่มีสถานการณ์ที่มันไม่ปกติเกิดขึ้น มันมีความจำเป็นต้องประกาศใช้ ผมก็มุ่งหวังจะใช้ให้สั้นที่สุด วันนี้ก็ประกาศใช้เพียงแค่ 1 เดือน 30 วันหรือน้อยกว่านั้น ถ้าสถานการณ์คลี่คลายได้โดยเร็ว ไม่มุ่งหวังจะทำร้ายใคร แต่ท่านต้องดูทุกวันที่เกิดขึ้นมาใครถูกทำร้ายบ้าง ก็คือเจ้าหน้าที่เป็นผู้ถูกกระทำเกือบทั้งสิ้น ทุกอย่างมันแสดงให้เห็นว่า สถานการณ์มันไม่ใช่ปกติแล้ว แล้วเหตุการณ์สำคัญอื่นๆ ก็เกิดขึ้น ทุกคนทราบดี อยู่ในสายตาสื่อทุกคน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

เพราะฉะนั้นก็ขอให้ทำให้บ้านเมืองสงบสุขได้หรือไม่ ทำให้บ้านเมืองมีเสถียรภาพได้หรือไม่ แล้วสิ่งสำคัญที่สุดคือเป็นห่วงผู้บริสุทธิ์ต่างๆ ทั้งหมด ใครบริสุทธิ์ หรือไม่บริสุทธิ์ก็รู้กันอยู่ เพราะฉะนั้นผมให้ได้แนวทางการปฏิบัติไปแล้วกับหัวหน้าผู้รับผิดชอบ คือ ท่านรองนายกรัฐมนตรี ในส่วนของหัวหน้าส่วนปฏิบัติ คือ หัวหน้าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

เพราะฉะนั้นก็ขอให้ทุกคนระมัดระวังในการบังคับใช้กฎหมายนี้ด้วย กฎหมาย นี้มีอำนาจทุกอย่าง เพราะฉะนั้นก็ขอเตือนไว้ด้วย อย่าทำผิดกฎหมายเท่านั้นเอง แต่มีกฎหมายต่างๆ เหมือนประเทศ ทั้งนี้ ต้องรักษาคนส่วนใหญ่เอาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจในเวลานี้ ซึ่งนักธุรกิจเขาร้องเรียนมาที่ผมจำนวนมาก สถานการณ์เมื่อวานนี้ ผมในฐานะหัวหน้ารัฐบาล หัวหน้าคณะรัฐมนตรี ก็ปล่อยไว้ไม่ได้ นั่นก็คือเรื่องที่ต้องนึกถึงคนส่วนใหญ่ของประเทศเขาบ้าง เวลาที่เราควรต้องทำอย่างอื่นดูแลประชาชน ความสงบเรียบร้อย รักษาชีวิตทรัพย์สิน ต้องเอากำลังทั้งหมดมาดูแลเรื่องผิดกฎหมาย

พร้อมฝากสื่อมวลชนที่เข้าไปทำข่าวในพื้นที่ชุมนุมต้องติดปลอกแขนแสดงหน่วยงานสังกัดด้วย โดยในทางการเมืองเหลืออีกไม่เพียงกี่วันก็เปิดรัฐสภา รัฐบาลก็สนับสนุนให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ขอให้ดำเนินตามขั้นตอนทางกฎหมาย ขอเตือนทุกคนที่กระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะผู้ที่ใช้สื่อโซเชียลให้ระมัดระวัง อย่าโฆษณาหรือบิดเบือน ทั้งนี้ รัฐบาลทำอย่างเดียวก็แก้ปัญหาอะไรก็ไม่ได้ ตราบใดที่คนไทยยังไม่มีน้ำใจเป็นหนึ่งเดียวที่จะทำให้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้

“ในส่วนของนิสิตนักศึกษาก็ขอฝากผู้ปกครอง ให้กรุณาช่วยดูแลให้ดีที่สุด ผมไม่อยากให้มีผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้น มันเป็นอันตราย เพราะเราก็ไม่รู้ว่า วัตถุประสงค์ของผู้ที่อยู่เบื้องหลังเขาต้องการอะไรบ้าง ก็พอจะทราบอยู่หล่ะ แต่เขาไม่ได้เปิดเผยตัวออกมา ก็ระมัดระวังด้วยแล้วกัน อย่าให้อยู่ในกลุ่มผู้ต้องสงสัย โอเคนะครับ อย่าหาว่าผมขู่” เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความจำเป็นในการประกาศเคอร์ฟิว นายกรัฐมนตรีตอบว่า “ก็มีกำหนดอยู่ในนั้น แต่ยังไม่ได้ประกาศไง อยากประกาศไหม … มันสงบมั้ง ก็ถ้ามันลุกลามบานปลายก็ต้องทำ” อย่างไรก็ตาม การดูแลสถานการณ์ยังไม่ไปถึงขั้นประกาศกฎอัยการศึกและการตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีก็แสดงความหงุดหงิดเมื่อมีการตั้งคำถามเรื่อง รัฐประหาร ตอบผู้สื่อข่าว “พูดซ้ำซากอยู่นั้นแหละ”

สำหรับเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่งของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ไม่ออกอ่ะ” และตอบคำถามเรื่องข้อเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำว่า “ผิดกฎหมาย”