นับวันรอนั่ง!…เปิดไทม์ไลน์รถไฟฟ้าสีเหลือง-ชมพู เดือนเมษา-มิถุนา 64

  • รฟม.ใจดีให้นั่งฟรีสามเดือน
  • ก่อนเปิดบริการเต็มรูปแบบ ก.ค.65

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังเป็นประธานในพิธี รับรถไฟฟ้าโมโนเรลขบวนแรก โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สําโรง ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลได้ให้ความสําคัญใน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมและขนส่งของประเทศ โดยกําหนดไว้ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี พร้อมทั้งได้ผลักดันให้เกิดโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนสายใหม่ๆ ขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนควบคู่กันไป ซึ่งโครงการรถไฟฟ้า สายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว – สําโรง ในความรับผิดชอบของรฟม.ถือเป็นโครงการที่รัฐบาลได้ให้ความสนใจ เพราะทั้งสองโครงการถือเป็น ทางเลือกใหม่ในการเดินทางที่สามารถขนส่งผู้โดยสารจํานวนมากได้ทั้งยังขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ ซึ่งรัฐบาลคาดหวังว่า กระทรวงคมนาคม และ รฟม. จะสร้างโครงข่ายระบบรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลให้เป็นตามแผนงาน เพื่อเป็นต้นแบบสําหรับการพัฒนาโครงการระบบขนส่งมวลชนทางรางในหัวเมืองภูมิภาคอื่นๆ ต่อไป

นอกจากนั้น ในประเทศไทยจะต้องมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าอีกหลายสายทาง ดังนั้นจึงมองว่า หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง รฟม. และ กระทรวงคมนาคม ควรที่จะไปศึกษา เพื่อมาดำเนินการให้เกิดเป็นรูปธรรมในเรื่องของการผลิตรถไฟฟ้าภายในประเทศเอง หรือ ประเทศไทยเป็นผู้ผลิต ตัวรถและโครงรถ และนำชิ้นส่วนอุปกรณ์จากต่างประเทศบางส่วน ที่ยังผลิตไม่ได้มาประกอบในประเทศไทย โดยเน้นการใช้อุปกรณ์ที่ผลิตภายในประเทศเป็นหลัก เพื่อลดต้นทุนผลิต และในเมื่อมีรถไฟฟ้าหลายสายทาง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องพิจารณาในเรื่องของอาคารจอดแล้วจรด้วย รวมถึงการสร้างเมืองใหม่ เนื่องจาก การก่อสร้างรถไฟฟ้าจะไม่เน้นที่กรุงเทพและปริมณฑลเท่านั้นแต่จะมีการขยายตัวไปยังต่างจังหวัดที่มีปัญหาในเรื่องของจราจรติดขัดด้วย คันนี้ถือได้ว่าเป็นความสำเร็จครั้งที่หนึ่งที่จะก้าวต่อไปที่จะทำให้ประเทศไทยก้าวข้ามกับบักปัญหาทุกอย่างโดยเฉพาะการผลักดันทุกโครงการ

ด้านนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ขณะนี่โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง มีความคืบหน้างานก่อสร้างกว่า 60% ซึ่งจะมีการนำมาทดสอบระบบในเบื้องต้นก่อน โดยบริษัท บอมบาร์ดิเอร์ทรานสปอร์เทชั่นโฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด จะทยอยส่งมอบรถไฟฟ้าสายสีชมพู จำนวนรวม 42 ขบวน และสายสีเหลืองจำนวนรวม 30 ขบวน จนครบจำนวนภายในปี 64

สำหรับปัญหาการก่อสร้างที่ล้าช้านั้น เนื่องจากติดปัญหาการส่งมอบพื้นที่ล่าช้า ผู้รับสัมปทานในพื้นที่ไม่สามารถก่อสร้างได้ รวมทั้งยังมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งสถานีของสายสีชมพู ในสองสถานี จากเดิมที่มีกำหนดเปิดเดินรถในเดือนตุลาคม ปี64 ซึ่งจะมีการเดินรถบางส่วนก่อนในเดือน ต.ค.64 และคาดว่าจะเปิดเดินรถแบบเต็มรูปแบบได้ภายในเดือนต.ค.65

ขณะที่สายสีเหลืองมีปัญหาในลักษณะเดียวกัน เรื่องการส่งมอบพื้นที่ แต่มีผลกระทบในเรื่องของเวลาน้อยกว่า โดยจะขยายเวลาออกไปอีก9 เดือน คาดว่าจะเปิดเดินรถได้เต็มระบบเก็บค่าโดยสารภายในก.ค. 65 หลังจากได้รับมอบรถขบวนแรกแล้ว จะขนส่งตัวขบวนรถไปยังเดปโป้ของสายสีชมพูและสายสีเหลือง และจะมีการทดสอบบนราง โดยเฉพาะบ้างส่วนที่ยังไม่ได้ประกอบมา เช่น ระบบเบรก ระบบตัวรถเนื่องจากรถเรา วิ่งด้วยความเร็ว80 กม./ชม. ขณะเดียวกันจะมีการทดสอบระบบอาณัติสัญญาณเบื้องต้น ที่ติดตั้งในศูนย์ซ่อมบำรุงรวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆในศูนย์ซ่อมบำรุง

“ภายในเดือน เม.ย.-พ.ค.-มิ.ย.64 จะสามารถทดสอบเดินรถเสมือนจริงซึ่งจะเปิดให้ประชาชนทดลองฟรีรวม 3 เดือน โดยรถไฟฟ้าสายสีเหลืองจะเปิดให้บริการเดินรถบางส่วนเชิงพาณิชย์ในเดือน ต.ค.64 โดย จะเปิดให้บริการช่วงสำโรง-วัดศรีเอี่ยม และจะเปิดให้บริการจริงเครบทั้งเส้นในเดือน ก.ค.65 ส่วนรถไฟฟ้าสายสีชมพูจะเปิดให้บริการเดินรถบางส่วนเชิงพาณิชย์ ช่วงมีนบุรี-ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ ในเดือน ต.ค.64 และจะเปิดให้บริการเดินรถจริงแบบเต็มขบวนทั้งเส้นทางในเดือน ก.ค.65 ส่วนของค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 16-42 บาท”นางภคพงศ์ กล่าว

อย่างไรก็ตามเนื่องจากปัญหาการส่งมอบพื้นที่สายสีชมพู อาจจะมีบางสถานีที่ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ ทำให้เดินรถข้ามไม่จอดบางสถานี เช่นหน้าสถานีโรงพยาบาลนพรัตน์ ซึ้งจะมีปัญหาในดรื่องของการก่อสร้างสถานี ซึ้งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตามขบวนการผละหระทบด้านสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) หลังจากนี้จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอ ครม.เห็นชอบต่อไป แม้ว่าการก่อสร้างสถานีนพรัตน์ไม่แล้วเสร็จ แต่การเดินรถข้ามสถานีนี้ไปเพื่อไปจอดสถานีต่อไป