นักธุรกิจสหรัฐฯ พบ “บิ๊กตู่”

  • ยันตั้งไทยเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของภูมิภาค
  • เล็งบุก “อีอีซี”ใช้เป็นฐานการผลิตและวิจัย
  • ครม.เศรษฐกิจถกมาตรการ

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวหลังจากสภานักธุรกิจอาเซียน-สหรัฐฯ (USABC) นำคณะนักธุรกิจสหรัฐฯ เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า การหารือในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เชิญชวนภาพเอกชนของสหรัฐฯ เข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มเติมจากปัจจุบันที่มีการลงทุนในประเทศไทยอยู่แล้ว โดยเอกชนสหรัฐฯ หลายบริษัทให้ความสนใจที่จะลงทุนทางด้านพลังงาน ยาและสุขภาพ ธุรกิจโรงแรมและภาคการเงิน ซึ่งนายกรัฐ มนตรีได้กล่าวตอนรับนักลงทุน และได้ย้ำว่าการลงทุนใดๆ ของนักลงทุนสหรัฐฯ คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนและคนไทยในภาคเกษตรกรด้วย โดยทางบริษัทเบเยอร์จะลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาสินค้าในไทยเพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันมีการลงทุนด้านนี้อยู่แล้วประมาณ 30,000 ล้านบาท  

“ในช่วงหนึ่ง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในวันที่ 16 ส.ค.62 นักลงทุนจะไปเยี่ยมชมเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี ก็ขอเอาสองมือล้วงกระเป๋า สองเท้าก็ก้าวเข้ามา ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาในห้องประชุมเป็นอย่างมาก”

ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวว่า นักลงทุนสหรัฐฯ ให้ความสนใจทางด้านพลังงานและต้องการให้ไทยเป็นศูนย์กลางที่สำคัญของสหรัฐฯ ในภูมินี้ เช่น ศูนย์กลางทางด้านพลังงาน โดยมีบริษัท เซฟรอน และบริษัท เอ็กซอนโมบิล แสดงความสนใจที่จะลงทุนเพิ่มเติม ขณะที่ทางด้านยาและสุขภาพคือ บริษัท เบเยอร์ และบริษัท จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจโรงแรมคือ บริษัท แมริออท และทางด้านเทคโนโลยีคือ เฟสบุ๊ก เป็นต้น ส่วนการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ในวันที่ 16 ส.ค.นี้ จะเริ่มประ ชุม 09.30 น.และคาดว่า จะใช้เวลาประชุม 1.30 ชั่วโมง โดยมีวาระที่สำคัญ 2 เรื่องคือ 1.การรายงานภาวะเศรษฐกิจ โดยสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และ2.การนำเสนอมาตรกากระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น โดยกระทรวง การคลัง ซึ่งจะมีหลายมาตรการที่จะช่วยเหลือประชาชนระดับรากหญ้า และประชาชนในเมือง