ธ.ก.ส. เปิดโครงการประกันภัยโคเนื้อ วงเงินคุ้มครอง 30,000 บาทต่อตัว

  • ช่วยเกษตรกรลดความเสี่ยงจากการตายของโคเนื้อที่เจ็บป่วย
  • จ่ายค่าเบี้ยประกันภัย 400 บาท/ตัว ระยะเวลาคุ้มครอง 6 เดือน
  • เริ่มจำหน่ายกรมธรรม์ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)  เปิดเผยว่า ตามที่ ธ.ก.ส. และกรมปศุสัตว์ ได้มีนโยบายในการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ ได้แก่ โคเนื้อ กระบือ แพะเนื้อ และไก่พื้นเมือง รวมถึงกิจการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถภาคปศุสัตว์ไทยและช่วยฟื้นฟูอาชีพแก่เกษตรกร พร้อมทั้งสนับสนุนการจัดการด้านตลาดผลิตผลการเกษตรที่เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์      เพื่อสร้างอาชีพทางเลือกใหม่ด้วยการปรับเปลี่ยนพื้นที่ไม่เหมาะสมมาเลี้ยงสัตว์สำหรับจำหน่ายทั้งภายในและต่างประเทศ และเพื่อสร้างระบบภูมิคุ้มกันและส่งเสริมให้เกษตรกรมีการจัดการความเสี่ยงด้านการผลิต

ดังนั้นธ.ก.ส.จึงได้จัดทำโครงการประกันภัยโคเนื้อ เพื่อช่วยบรรเทาความเสียหายของเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้ออันเนื่องมาจากการตายของโคเนื้อที่เจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุ ให้สามารถพยุงตัวได้และมีทุนเหลือเพียงพอต่อการเริ่มต้นใหม่   ในอัตราค่าเบี้ยประกันภัยตัวละ 400 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและอากรแล้ว) โดยให้ความคุ้มครอง การตายจากการเจ็บป่วยของโคเนื้อ ไม่เกิน 30,000 บาทต่อตัว และการตายจากอุบัติเหตุ ไฟไหม้ ฟ้าผ่า น้ำท่วม  ดินถล่ม พายุ และแผ่นดินไหว ไม่เกิน 30,000 บาทต่อตัว ระยะเวลาคุ้มครองสิ้นสุดเมื่อส่งขายคอกกลางหรือ 6 เดือนนับจากวันขอเอาประกันภัย

สำหรับเงื่อนไขผู้ขอเอาประกันภัย ต้องเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อ และได้มีการขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมปศุสัตว์ ด้านโคเนื้อที่ขอเอาประกันภัยต้องมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ ไม่มีความพิการซึ่งมีผลกับสุขภาวะ และไม่เป็นโรคเรื้อรัง ไม่อยู่ระหว่างการรักษาพยาบาล มีอายุไม่เกิน 36 เดือน ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมปศุสัตว์ และมีการทำเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ เช่น  การเขียนที่ใบหู  หรือ การฝังชิบที่ใบหู  มีบันทึกประวัติถ่ายพยาธิ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคปากเท้าเปื่อย และโรคคอบวม มาแล้ว  ไม่เกิน 1 เดือน นับแต่วันที่ขอเอาประกันภัย 

“เกษตรกรผู้เอาประกันภัยจะต้องแสดงเอกสารยืนยันตัวตนของโคเนื้อ ระยะเวลารอคอย 30 วัน นับจากวันที่กรมธรรม์ประกันภัยมีผลบังคับ เกษตรกรหรือผู้ที่สนใจสามารถติดต่อขอเอาประกันภัยโคเนื้อได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02 -555 -0555”