ธ.ก.ส.คาดสิ้นปีปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 73,500 ล้านบาทต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ เหตุเกษตรกรไม่สนใจกู้-รัฐอัดมาตรการดูแลช่วงโควิด

  • เล็งเสนอ รมว.คลัง พิจารณาเป้าสินเชื่อปีบัญชี 2564
  • ลงพื้นที่สำรวจสถานะลูกค้าเตรียมรับมือหลังมาตรการพักหนี้จบ

นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ในปีบัญชี 2563 ธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ 150,000 ล้านบาท โดยขณะนี้สามารถปล่อยสินเชื่อได้เพียง 50,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5% ของวงเงินสินเชื่อเท่านั้น สำหรับสาเหตุที่ปล่อยสินเชื่อได้น้อยมาจากเกษตรกรไม่มีความสนใจอยากจะกู้เงิน

ขณะที่ในปีนี้รัฐบาลออกมาตรการเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19  จึงทำให้เกษตรกรมีสภาพคล่อง อย่างไรก็ตาม คาดว่าสิ้นปีบัญชี 2563 จะสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 73,500 ล้านบาท

ส่วนปีบัญชี 2564 ยังไม่ได้สรุปตัวเลขการปล่อยสินเชื่อใหม่ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการทำเตรียมแผน เพื่อเสนอ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ในฐานะประธานบอร์ดของธนาคารต่อไป โดยจะพิจารณาประกอบกับการปล่อยสินเชื่อของปีบัญชี 2563 ด้วย เนื่องจากยอดการปล่อยสินเชื่อน่าจะไม่ได้ถึงเป้าหมาย เพื่อให้ประธานบอร์ดพิจารณาในเรื่องดังกล่าวด้วย ส่วนพอร์ตเงินฝากของ ธ.ก.ส. มีอยู่กว่า 1.7 ล้านล้านบาท และพอร์ตสินเชื่อมีจำนวน 1.5 ล้านล้านบาท

“การดูแลลูกค้าเพื่อรองรับมาตรการพักหนี้ที่จะทยอยสิ้นสุดในปี 2564 และปี 2565 ธนาคารจะลงไปสำรวจความสามารถในการชำระเงินของลูกค้า ตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยที่ผ่านมาสามารถสำรวจได้แล้ว 87% จากจำนวนลูกหนี้ทั้งหมด 4.2 ล้านครัวเรือน”

โดยแบ่งลูกหนี้ออกเป็น 3 กลุ่ม ไดแก่  กลุ่มสีเขียว ซึ่งมีความสามารถในการกลับมาชำระหนี้ได้ปกติ 23% กลุ่มสีเหลือง เป็นกลุ่มที่ค้างชำระดอกเบี้ย 15 เดือน 61% และกลุ่มสีแดง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องตัดหนี้สูญ มีอยู่ 16% และคาดว่าจะสามารถสำรวจได้แล้วเสร็จทุกรายในช่วงเดือนมี.ค.64

“ธนาคารมีการลงไปสำรวจลูกค้าแล้ว 87% ช่วงก่อนเกิดโควิด ส่วนหลังจากโควิด-19 กลับมาระบาดรอบนี้ ธนาคารจะลงไปพบลูกค้ากลุ่มนี้อีกครั้ง เพื่อยืนยันสถานะของลูกค้า ว่ายังมีความแข็งแรงอยู่หรือไม่ หรือมีความสามารถกลับมาชำระหนี้หรือไม่ ซึ่งหากพบว่าลูกค้าที่ไม่สามารถกลับมาพักชำระหนี้ได้ ก็จะพิจารณาขยายการพักหนี้ต่อให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นมาตรการของธ.ก.ส.เอง ไม่ใช่นโยบายของ ธปท. ส่วนลูกค้าที่ยังสามารถกลับมาชำระหนี้ได้ จะให้เข้าร่วมโครงการชำระดีมีคืน ซึ่งจะได้รับเงินคืน 20% ของดอกเบี้ยที่ชำระจริง แต่ไม่เกินรายละ 5,000 บาท”