ธุรกิจอสังหาฯ สัญญาณฟื้นรับอานิสงส์ กนง.คงดอกเบี้ย รัฐบาลให้ตรึงดอกเบี้ยถึงสิ้นปี

  • เตือน ราคาบ้านที่อยู่อาศัย จะสูงขึ้น เพราะต้นทุนสูงขึ้น
  • ธอส.ปล่อยสินเชื่อไตรมาสแรก 62,000 ล้านบาท
  • มั่นใจทั้งปีทะลุ  270,000 ล้านบาท 

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) บรรยายพิเศษ เรื่อง “แบงก์ปลดล็อกสินเชื่ออสังหาฯ รับตลาดฟื้น” ว่า  ไตรมาสแรก ธอส.ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ถึง 62,000 ล้านบาท  โดยคาดว่าทั้งปีจะปล่อยสินเชื่อได้มากกว่า 270,000 ล้านบาท โดยการตั้งเป้าการปล่อยสินเชื่อนั้น  ถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ และ เป็นดัชนีชี้วัด การฟื้นตัวอสังหาฯว่า ถ้ามีการสร้างที่อยู่อาศัยแล้ว จะมีคนซื้อ เมื่อมีคนซื้อ ยอดสินเชื่อก็เติบโตตามไปด้วย 

สำหรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้น แต่ภายใต้บริบทของประเทศ โดยคณกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ขณที่กระทรวงการคลัง ก็มอบนโยบายให้ธอส.ตรึงอัตราดอกเบี้ย  ไปจนถึงสิ้นปี ดังนั้นในภาวะเช่นนี้ หากผู้บริโภค ต้องการซื้ออสังหาฯ ก็ควรพิจารณา เพราะอัตราดอกเบี้ยยังคงที่อยู่

“สัญญาณการฟื้นตัวของอสังหาฯ คือ อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ยังคงตรึงไว้ที่ 0.5% แต่คาดว่า ราวไตรมาส 3 หรือ 4 กนง.จะปรับขึ้น ขณะที่ ภาครัฐได้ส่งสัญญาณมาให้เรา คือ ตรึงดอกเบี้ย ซึ่งธอส.ก็จะตรึงให้นานที่สุด และเชื่อว่าจากนี้ไป 1-2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่แน่นอน และธอส.เป็นแบงก์รัฐ ก็จะตรึงอัตราดอกเบี้ยให้นานที่สุด”

นายฉัตรชัย กล่าวว่า ภาวะวิกฤตโควิดที่ผ่านมา สถาบันการเงินของรัฐ  ได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยทั้งหมดและพักชำระหนี้อีกหลายล้าน ฉะนั้น แบงก์รัฐคือคนที่ออกมาช่วยลูกค้าจริงๆ  โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย และได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด  ส่วนการขยายตลาดสินเชื่อได้ในช่วงนี้ มาจากผู้ที่มีกำลังซื้อ และมีความพร้อมในการชำระสินเชื่อเป็นหลัก แต่ส่ิงที่น่ากังวลใจแทนผู้ซื้อบ้านจากนี้ไป คือ ราคาบ้านที่อยู่อาศัย จะสูงขึ้น เพราะต้นทุนสูงขึ้น อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเมื่อผู้บริโภคต้องการมีบ้านที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง ก็ต้องเลือกบ้านที่ตัวเองผ่อนได้  เพื่อมิให้เป็นภาระจนเกินไป