ธีมลงทุนรับคริสต์มาส

ช่วงใกล้วันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับเข้าสู่ปีใหม่   หลายคนตอนนี้คงกำลังเร่งสะสางภารกิจ เคลียร์งานที่คั่งค้าง เพื่อจะได้หยุดพักผ่อนในวันหยุดยาวที่กำลังจะมาถึง

และการเตรียมวางแผนสำหรับปีหน้า ก็เป็นอีกสิ่งที่นักลงทุนควรให้ความสำคัญ เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่เราอยู่ข้างหน้า  หลายเรื่องก็เป็นสถานการณ์ที่เกิดต่อเนื่องจากปีนี้ ซึ่งอาจสร้างปัญหาเพิ่มขึ้นในปีหน้า 

SETINVESTNOW เว็บไซต์รวบรวมความรู้เรื่องลงทุนโดยตลาดหลักทรัพย์ฯ  พูดถึงความเสี่ยงที่กระทบต่อการลงทุนในปี 2565 ที่จะส่งผลต่อเนื่องไปในปี 2566 และอาจรุนแรงขึ้น ในบทความ  “5 ธีมการลงทุนรับคริสต์มาส” ไว้อย่างน่าสนใจ

ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยเรื่องสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานด้านอาหารสัตว์ ปุ๋ย รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ, การขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จนอาจทำให้เศรษฐกิจถดถอย,  การล็อกดาวน์ในหลายพื้นที่ของจีนตามมาตรการ Zero-Covid  กระทบต่อห่วงโซ่การผลิต  การส่งออกและการผลิตในประเทศต่าง ๆ ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนชิ้นส่วนวัตถุดิบจากจีน

ตลอดจนความเสี่ยงใหม่ๆ ที่ต้องจับตามองอย่าง หนี้สาธารณะในยุโรป โดยเฉพาะในประเทศที่มีหนี้ภาครัฐสูง เช่น อิตาลี สร้างความกังวลเรื่องปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ตามมา และส่งผลต่อความเชื่อมั่นในสกุลเงินยูโร 

วิกฤติตลาดเกิดใหม่ หลายประเทศเสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้ จนนักลงทุนต่างชาติขาดความเชื่อมั่นและดึงเงินลงทุนกลับ และเกิดปัญหาสภาพคล่องตามมา   และเรื่องของโควิดกลายพันธุ์ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

โดยแนะนำ 5 ธีมลงทุนในเดือนสุดท้ายของปีนี้ คือ 1. กองทุนรวมหุ้นจีน โดยเฉพาะกองทุนที่มีความผสมผสานระหว่างกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า กลุ่มขายของออนไลน์ เกมออนไลน์ รวมทั้งการบริโภค ที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม, 2. กองทุนรวมหุ้นเอเชียแปซิฟิก นักลงทุนหนีความผันผวนจากความกังวลเรื่องเงินเฟ้อในยุโรปและสหรัฐฯ มาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่ได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่คึกคัก และการท่องเที่ยว

3. กองทุนรวมหุ้นขนาดใหญ่ทั่วโลก หลังความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดคลี่คลาย นักลงทุนมองหาโอกาสลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ที่มีกระแสเงินสดดี และกระจายการลงทุนไปทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่ม IT ,สถาบันการเงิน และ Healthcare มีโอกาสการปรับตัวขึ้น, 4. กองทุนรวมหุ้นกลุ่มพลังงานทางเลือก เป็นจังหวะที่จะทยอยสะสมหุ้นกลุ่มนี้ หลังมูลค่าลดลงจากช่วงก่อนหน้านี้ ประกอบกับหลายประเทศยังมีทิศทางและนโยบายลงทุนด้านพลังงานทางเลือกอย่างต่อเนื่อง

และ 5. กองทุน REITs การลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์  เหมาะกับนักลงทุนที่ชอบความผันผวนต่ำ และเปิดโอกาสได้รับเงินปันผลหรือรายได้ที่เติบโตจากพื้นที่ให้เช่า โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีกที่ได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศ

ถือว่าเป็นธีมลงทุน ที่น่าสนใจและใช้เป็นข้อมูลพิจารณาประกอบการตัดสินใจสำหรับนักลงทุน  เมอรี่คริสต์มาสค่ะทุกคน!

                                              คุณนายพารวย