ธอส.ส่งสัญญาณค่าผ่อนบ้านเพิ่มล้านละ 500 บาทต่องวด

  • เหตุดอกเบี้ยขาขึ้น กระทบลูกค้าธอส. 35%
  • เป็นผู้มีรายได้น้อยและอาชีพอิสระ
  • เกาะติดสถานการณ์ ดูแลลูกค้าใกล้ชิด

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส.ต้องติดตามสถานการณ์ปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) และคณะกรรมการนโยบายการเงิน  (กนง.) อย่างใกล้ชิด  หากปรับขึ้นติดต่อกันหลายครั้ง ธอส.จำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้ โดยกรณีดอกเบี้ยเงินกู้นั้น หากมีการปรับขึ้น 25 สตางค์ จะมีผลต่อผู้กู้ซื้อบ้าน เพราะเงินค่างวดผ่อนบ้านจะเพิ่มขึ้นทันที โดยเงินกู้ 1 ล้านบาท จะส่งผลให้การจ่ายเงินงวดเพิ่มขึ้น 500 บาทต่องวด

“การปรับขึ้นดอกเบี้ย มีผลต่อค่าผ่อนบ้านแต่ละงวดนั้น ธอส.ได้ประเมินว่าจะมีผลกระทบต่อลูกค้าธอส. 35% จากจำนวนทั้งหมด 1.45 ล้านล้านบัญชี  ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้น้อยและอาชีิพอิสระ ซึ่งธอส.ก็มีความกังวลใจ แต่ก็ต้องเกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิดว่า เมื่อเงินค่างวดผ่อนบ้านเพิ่มขึ้น ลูกค้ากลุ่มนี้จะผ่อนไหวหรือไม่ โดยกลุ่มที่เป็นห่วงมากคือ อาชีพอิสระ ซึ่งธอส.อาจต้องเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มีกำลังผ่อนบ้าน  เพราะธอส.มีหน้าที่ทำให้คนไทยมีบ้านเป็นคนตัวเองต่อไป”

สำหรับผลการดำเนินงานปี2564 ธอส.สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 246,875 ล้านบาท จำนวน 181,843 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 9.65% ถือว่าสูงกว่าเป้าหมาย 31,234 ล้านบาท และเป็นการปล่อยสินเชื่อสูงสุดในประวัติศาสตร์ 68 ปี นับตั้่งแต่ก่อตั้งธนาคาร มีกำไรสุทธิ 12,351 ล้านบาท ส่วนปี2565 ตั้งเป้าสินเชื่อใหม่ไว้ที่ 222,110 – 226,428 ล้านบาท 

นายฉัตรชัย กล่าวว่า จากวิกฤตโควิด ทำให้ธอส.ได้ออกมาตรการช่วยเหลือทั้งพักชำระหนี้ ยืดระยะเวลาการชำระหนี้ รวม 22 มาตรการ มีลูกค้าเข้าร่วมมาตรการ 973,227 บัญชี คิดเป็นเงิน 847,218 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้สิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือแล้ว ทำให้ลูกค้าแต่ละราย ต้องกลับมาผ่อนชำระตามปกติก่อนเข้าร่วมโครงการ ซึ่งบางรายสามารถผ่อนชำระได้ตามกำหนด บางรายผ่อนชำระไม่เต็มงวด แต่มี11,000 บัญชี ไม่ติดต่อธนาคารเลย และ 9,000 บัญชี ติดต่อธอส.แต่ไม่มีความสามารถชำระหนี้ รวมมูลค่าหนี้  20,000 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มนี้ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นหนี้เสีย ภายในช่วงระยะเวลาไม่เกิน 90 วันต่อจากนี้ หรือช่วงเดือนมี.ค.65 โดยธอส. ได้ ตั้งสำรองหนี้เสียของกลุ่มนี้ไว้แล้ว 1,000 ล้านบาท โดยปี2564 ธอส.มีหนี้เอ็นพีเแอล 58,381 ล้านบาท คิดเป็น 4% ของยอดสินเชื่อรวม