ธอส.คาดปี 63 อสังหาริมทรัพย์ ไทยพลิกกลับมาโตถึง 10%

  • หลังรัฐออกมาตรการช่วยหนุนเหลือภาคอสังหา
  • ลดค่าโอนและจดจำนอง-ให้กู้ซื้อบ้านดอกต่ำ
  • ภาคเหนือมีบ้านในสต๊อกรอขาย 14,019 หน่วย

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า คาดว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2563 จะพลิกกลับมาเป็นบวกถึง 5-10% จากที่ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ คาดการณ์ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีหน้าจะเติบโตติดลบ 5-7% ทั้งนี้เนื่องจากในปีนี้รัฐบาลออกมาตรการช่วยภาคอสังหาฯ ทั้งลดค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนองอสังหาริมทรัพย์เหลือ 0.01% รวมทั้งยังมีมาตรการสินเชื่อที่ธอส. ปล่อยกู้ซื้อบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษคงที่ 2.5% ช่วง 3 ปีแรก ซึ่งยื่นกู้ได้ถึงวันที่ 24 ธ.ค. 2563

ทั้งนี้คาดว่ามาตรการที่รัฐบาลออกมาจะช่วยทำให้อสังหาฯ ที่รอการขายในปีนี้ซึ่งเป็นบ้านที่มีราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท จำนวน 140,000 หน่วย และในปีหน้าซึ่งจะมีการการก่อสร้างอสังหาฯ เพิ่มอีกในส่วนราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท อีกประมาณ 40,000 หน่วย รวมทั้งสิ้น 180,000 หน่วย จะได้รับอานิสงส์จากมาตรการช่วยเหลืออสังหาฯ ที่รัฐบาลออกมา

“ในช่วงปีหน้าคาดว่าผู้ประกอบการจะเน้นสร้างทาวน์เฮ้าส์มากขึ้นเพื่อรองรับกับมาตรการของรัฐบาล เนื่องจากก่อสร้างเพียง 6 เดือนก็สามารถเปิดใช้ได้ แทนการสร้างคอนโดมิเนียมที่ต้องใช้เวลานาน”

            นอกจากนี้ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ได้ออกสำรวจอยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในช่วงครึ่งแรกปี 2562 ในพื้นที่ภาคเหนือ ได้แก่จังหวัดเชียงใหม่  เชียงราย ตาก และพิษณุโลก โดยนับเฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 หน่วย พบว่า มีโครงการที่ยังอยู่ระหว่างขาย 360 โครงการ เหลือขายจำนวน 14,019 หน่วย มูลค่า 49,997 ล้านบาท  ส่วนโครงการอาคารชุดมีจำนวน 59 โครงการ เหลือขาย จำนวน 2,695 หน่วย มูลค่า 8,259 ล้านบาท และโครงการวิลล่า มีจำนวนโครงการ 3 โครงการ เหลือขายจำนวน 18 หน่วย มูลค่า 373 ล้านบาท  

            สำหรับโครงการบ้านจัดสรรที่อยู่ระหว่างการขายในจังหวัดเชียงใหม่ เหลือขาย 7,139 หน่วย โดยทำเลบ้านจัดสรรที่เหลือขายมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ทำเลสันกำแพง จำนวน 1,466 หน่วย มีมูลค่า 4,881 ล้านบาท  2.ทำเลหางดงตอนล่าง จำนวน 1,048 หน่วย มูลค่า 5,256 ล้านบาท  3.ทำเลแม่โจ้ จำนวน 1,034 หน่วย มูลค่า 2,617 ล้านบาท 4.ทำเลม.พายัพ มีจำนวน 796 หน่วย มูลค่า 3,204 ล้านบาท และ 5.ทำเลสันทราย จำนวน 690 หน่วย มูลค่า 3,367 ล้านบาท  โดยส่วนใหญ่เกือบทั้ง 5 ทำเลนี้เหลือขายในประเภทบ้านเดี่ยว และอยู่ในระดับราคา ‪3.0- 5.00‬ ล้านบาทมากที่สุด

ส่วนโครงการบ้านจัดสรรที่อยู่ระหว่างการขายในจังหวัดพิษณุโลก เหลือขาย 2,073 หน่วย โดยทำเลบ้านจัดสรรที่เหลือขายมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.ทำเลหัวรอ จำนวน 633 หน่วย มูลค่า 1,819 ล้านบาท 2.ทำเลบึงพระ จำนวน 450 หน่วย มูลค่า 620 ล้านบาท 3.ทำเลมหาวิทยาลัยนเรศวร จำนวน 275 หน่วย มูลค่า 1,065 ล้านบาท 4.ทำเลแม่น้ำน่านฝั่งตะวันตก (ทะเลแก้ว) จำนวน 207 หน่วย มูลค่า 873 ล้านบาท บาท และ 5.ทำเลวัดจันทร์ จำนวน 189 หน่วย มูลค่า 525 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เหลือขายในประเภทบ้านเดี่ยว และบ้านแฝด ระดับราคา 3.01-5.00 มากที่สุด