- เผย “บิ๊กป้อม” มอบหมายประสาน ประธานยุทธศาสตร์สร้างพปชร.เป็นสถาบันการเมือง
- ชี้เลือกตั้ง อบต. พรรคตั้งเป้าส่งคนลงทุกเขต 76 จังหวัด
- เผยหลังพ้นตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ มีเวลาลงพื้นที่ พบประชาชนมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวาายงานว่า วันนี้ (22 ก.ย.64) ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางร่วมคณะกลับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อไปตรวจเยี่ยมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางบาล อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ว่าพล.อ.ประวิตร ได้มอบหมายให้ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรคพปชร.ประสานกับตน เพื่อขับเคลื่อนในการสร้างพรรค พปชร. ให้เป็นสถาบันการเมืองให้เกิดความมั่นคง และเข้มแข็งอย่างที่เคยพูดไว้ ซึ่งในเดือน พ.ย.นี้ จะมีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทั้ง 76 จังหวัด จึงต้องให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งท้องถิ่นซึ่งถือเป็นรากเหง้าของการเมืองเป็นเรื่องสำคัญ
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า ขณะนี้เมื่อไม่ได้เป็นรัฐมนตรีแล้วยอมรับว่า มีเวลาลงพื้นที่มากขึ้น ได้ทำงานพบปะประชาชนในฐานะเลขาพรรค พปชร. รวมถึงได้แนะนำว่าที่ผู้สมัคร และ ส.ส.ของพรรค ซึ่งตอนนี้กำลังจะมีการประชุมใหญ่ของพรรค โดยจะมีการจัดวางตัวบุคคลในแต่ละเขต แต่ละพื้นที่
ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนตัวรู้สึกทำใจได้แล้วหรือยัง หลังถูกปลดจากตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ได้มีอะไร ก็ยังทำงานได้ทุกสถานะ ตอนนี้มีเวลามากขึ้น ได้ทำงานเต็มที่ และก็ยังอยู่ใน พรรค พปชร. ทั้งนี้ หลังจากที่หัวหน้าพรรคได้ตั้งคณะทำงานยุทธศาสตร์ ถือเป็นคณะที่สำคัญที่จะกำหนดนโยบาย และแผนการเลือกตั้งในสมัยหน้าอย่างที่ พล.อ.ประวิตร ได้เคยพูดไว้
ทั้งนี้มีการถามต่อถึงความสัมพันธ์ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ผมออกมาทำงานในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งก็มีหน้าที่ทำงานในสภาฯ และทำงานลงพื้นที่ให้กับลูกพรรคอย่างเต็มที่ ส่วนรัฐบาลก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาล คนละส่วนกัน
เมื่อถามย้ำว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ ยังเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค จะยังให้การสนับสนุนหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เรื่องนี้คงเป็นหน้าที่ของหัวหน้าพรรค ตนพูดตอนนี้ไม่ได้ ส่วนตัวไม่ได้มีปัญหาอะไร ยังรับใช้ประชาชนเหมือนเดิม ยืนยันไม่มีน้อยใจหรือเสียใจอะไร
ทั้งนี้ส่วนจะไปตั้งพรรคใหม่หรือไม่นั้น ร.อ.ธรรมนัส เลี่ยงที่จะตอบคำถามดังกล่าว โดยกล่าวเพียงว่า อย่างที่ได้บอกไปในการประชุมพรรคครั้งที่แล้วว่า พล.อ.ประวิตร ท่านขอร้องให้มาช่วยพรรคต่อ และเนื่องจากหัวหน้าพรรคมีบุญคุณกับตนในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะวิถีชีวิตทางการเมือง ตนก็จะทำงานให้ท่านไปก่อน แต่ยอมรับว่า อนาคตเป็นของไม่แน่นอน
ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวถึงการเลือกตั้งท้องถิ่นขึ้นอยู่กับประธานยุทธศาสตร์จะกำหนดทิศทางและนโยบายอย่างไรและสิ่งสำคัญนโยบายที่เคยหาเสียงไว้จะนำไปสู่การปฏิบัติให้ประชาชนอย่างไร ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก ซึ่งในการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้ หากพื้นที่ไหนเป็นของ ส.ส.ของพรรค พปชร.ก็มีความมั่นใจ แต่ไม่ได้มองเฉพาะแค่พื้นที่ที่มีส.ส.อยู่เท่านั้น แต่ทั้ง 76 จังหวัดทุกเขต เราต้องมีผู้สมัครของเรา นี่ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ และตนจะเดินทางไปทุกจังหวัดในการพบปะว่าที่ผู้สมัครนายก อบต.ของพรรค
เมื่อถามอีกว่าการลงพื้นที่ยืนยันได้หรือไม่ว่าไม่ได้เป็นการงัดข้อกับ พล.อ.ประยุทธ์ โดย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ ไม่เกี่ยว เรารัฐบาลเดียวกันอย่างที่ พล.อ.ประวิตร ยืนยัน อย่าพยายามสร้างประเด็นใหม่ให้เกิดความแตกแยก ย้ำว่าพรรค พปชร.ยังเหนียวแน่นกันเหมือนเดิม และในวันที่ 23 ก.ย.นี้ ก็จะมีการประชุมพรรคอีกด้วย
