ธรรมนัส”แปลงร่างส.ป.ก.4-01เป็น“ส.ป.ก.4.0” ให้ขายได้ถูกกฏหมาย

“ธรรมนัส”จี้แก้กฎหมาย แปลงร่างจาก “ส.ป.ก.4-01” เป็น “ส.ป.ก.4.0” ภายใน 3-6 เดือน เพื่อให้นำที่ดิน ส.ป.ก.เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ เพิ่มเติมจากเดิมทำการเกษตรได้อย่างเดียว ให้จำหน่าย จ่าย โอน และเป็นสินทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้กับธนาคารได้ แต่จะมีมาตรการไม่ให้ที่ดินนี้ตกไปอยู่ในมือนายทุน

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าจะเรียกผู้บริหารของหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลมารับนโยบาย ประกอบด้วยกรมฝนหลวงและการบินเกษตร สำนักงานการปฏิรูปเพื่อเกษตรกรรรม(ส.ป.ก.) องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) และกรมพัฒนาที่ดิน ในส่วนของส.ป.ก.นั้น ถือว่าตรงกับนโยบายของพรรค เรื่องการโฉนดทองคำ หรือ ส.ป.ก.4.0 เพื่อสร้างมูลเพิ่ม ให้เทียมเท่าโฉนดที่ดินทั่วไป

“ ปัจจุบันเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. 4-01 ไม่มีมูลค่าและมูลค่า ไม่สามารถนำไปค้ำประกันการกู้เงินจากธนาคารได้ เนื่องจากเป็นเอกสารสิทธิ์ที่ห้ามจำหน่ายจ่ายโอน ซึ่งเบื้องต้น จะต้องแก้ไขปรับปรุงกฏหมายส.ป.ก. ใหม่ โดยให้เพิ่มวัตถุประสงค์การใช้ประโยชน์ในด้านการท่องเที่ยวด้วยนอกเหนือจากที่สงวนสิทธิ์ไว้เพื่อการเกษตรเพียงอย่างเดียว รวมทั้งจะกำหนดระยะเวลาการถือครองเพื่อการจำหน่ายจ่ายโอนเอาไว้ด้วย และต้องหามาตรการไม่ให้ตกไปอยู่ในมือนายทุน ซึ่งการแก้ไขกฏหมายจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ใน 3-6 เดือนเพื่อเร่งให้จบภายในการทำงานของรัฐบาลชุดนี้”


สำหรับการเพิ่มให้ใช้ประโยชน์ด้านการท่องเที่ยวนั้นจะเปิดกว้างให้เกษตกรในพื้นที่สามารถลงทุนทำธุรกิจโฮมสเตย์ และอื่นๆ ตามมาอีกมาก จะทำให้มูลค่าการใช้ที่ดินเพิ่มสูงขึ้นและเป็นที่ยอมรับของธนาคารต่างๆใช้เป็นสินทรัพย์ค้ำประกันได้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปัจจุบันพื้นที่ ส.ป.ก. นี้มีนายทุนเข้าไปครอบครองอยู่จำนวนมาก จึงจะขอดูรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้งเพื่อหาแก้ไขต่อไป

นอกจากนี้ในส่วนของพื้นที่ป่า ซึ่งยังไม่รู้ว่าเป็นที่ดินของการดูแลของป่าไม้ หรือส.ป.ก. เพราะในอดีตรัฐบาลสมัยนายปลอดประสพ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ ได้มีนโยบายนำคนออกจากป่าโดยรัฐบาลจัดหาที่อยู่ให้ และพื้นที่ดังกล่าวนำเสนอ คณะรัฐมนตรี(ครม.) สมัยนั้นไปแล้วแต่ยังไม่มีกฏหมายประกาศใช้อย่างเป็นทางการ ขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าวถูกลืม ไม่ได้มีการจัดเอกสารสิทธิ์การการอาศัยในที่ดินให้ ทำให้ชาวบ้านกลายเป็นคนบุกรุก

“เบื้องต้นได้หารือกับกรมแผนที่ทหาร เพื่อนำเอกสารยืนยันการขีดเส้นแดนของแผนที่ทั่วประเทศ ที่ขณะนี้มีการทับซ้อนของแผนที่ระหว่างที่ดินของส.ป.ก. และที่ดินของกรมป่าไม้ เพราะเมื่อปี 2524 เคยมีการประกาศแผนที่ของกรมป่าไม้ในหลายที่ เช่น โคราช โดยในตอนนั้นมีการประกาศเป็นพระราชกฤษฎีกา จึงถือว่าถูกต้องมีหลักฐานยืนยัน แต่หลังจากที่นำคนออกจากป่า เพื่อจัดสรรที่ดินให้อยู่อาศัย การดำเนินการเมื่อปี 2544 ครม.ได้อนุมัติพื้นที่ให้กับชาวบ้าน ภายใต้ที่ดิน ส.ป.ก. แต่ยังไม่มีกฏหมาย จึงต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือนจากนี้”

สำหรับอ.ต.ก. นั้น ได้หารือกับสมาคมกล้วยไม้ ที่เสนอให้ใช้พื้นที่ อ.ต.ก. เป็นตลาดกล้วยไม้ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ในขณะที่อ.ต.ก. มีศักยภาพที่จะพัฒนาให้เป็นพ่อค้าคนกลางในการรับสินค้าจากเกษตรกรไปจำหน่าย ทั้งตลาดในประเทศและส่งออก โดยจะทำให้ผลผลิตสินค้าเกษตรมีตลาดรองรับที่ชัดเจน ปัญหาราคาตกต่ำ หรือล้นตลาดก็จะหมดไป